Power Apps Model Driven

Power Apps Model Driven Power Apps Model Driven คือ Apps ที่มีการเน้น ข้อมูลเป็นหลักเหมาะสำหรับแอปพลิเคชันทางธุรกิจที่ซับซ้อนและซับซ้อนมากขึ้นหมวดการสร้าง Apps อีกแบบหนึ่งของ Power Apps ซึ่งจะแตกต่างจาก Canvas และนำไปใช้กับประเภท App เช่น คุณสมบัติที่แตกต่างจาก Casvas การออกแบบแอปที่เป็นแบบโมเดลเป็นแนวทางที่เน้นการเพิ่มแดชบอร์ด ฟอร์ม มุมมอง และแผนภูมิให้กับแอปของคุณ ด้วยโค้ดเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย คุณสามารถสร้างแอปที่เรียบง่ายหรือซับซ้อนมาก ในแอปพื้นที่ทำงาน ผู้ผลิตแอปจะควบคุมเค้าโครงแอปได้ทั้งหมด ในทางกลับกัน ในแอปที่เป็นแบบโมเดล เลย์เอาต์ส่วนใหญ่จะถูกกำหนดโดยส่วนประกอบที่คุณเพิ่ม เน้นที่การดูข้อมูลธุรกิจของคุณอย่างรวดเร็วและตัดสินใจมากกว่าการออกแบบแอพที่ซับซ้อน ค่าใช้จ่ายสำหรับ Model Driven คุณสมบัติที่นอกจากจะพัฒนาในหมวด Model Driven ได้แล้ว ยังได้ option พิเศษ เพิ่มขึ้นมาอีกเช่น ระบบ AI Builder ที่จะเป็นตัวช่วยในการพัฒนา App ให้มีความสามารถในการวิเคราะห์ภาพ การแปลง Picture to text และอื่น ๆ…

Microsoft Stream

Microsoft Stream Microsoft Stream คือ พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ Video ประกอบด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลพื้นฐาน ผู้เช่า Microsoft Stream (Classic : มีมาในชุดเครื่องมือ Microsoft 365 ) จะได้รับการจัดสรรพื้นที่จัดเก็บ 500 GB แบบตายตัวและพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติม 0.5 GB ต่อผู้ใช้ที่มีสิทธิ์การใช้งาน File size limits Entity Size Limits Max video file 50 GB Max thumbnail size per file 4 MB Max text track / Subtitle size 2 MB User limits Entity Size Limits Uploaded…

Performance Power Apps

Performance Power Apps Performance Power Apps คือ เรื่องที่เราต้องคำนึงและทำความเข้าใจเรื่องประสิทธิภาพในการใช้งาน เพราะมันกระทบกับ User โดยตรง ถ้า App ของเราใช้เวลาในการเรียกข้อมูล นาน หรือ ใช้เวลาใน Save นานมาก แน่นอนว่า User ต้องไม่พอใจ ดังนั้นในตอนนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การทำงานของ Power Apps กันครับ ขั้นตอนการดําเนินการใน Canvas Apps จะผ่านขั้นตอนการดําเนินการต่อไปนี้ก่อนที่จะแสดง Interface : ตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้: แจ้งให้ผู้ใช้ครั้งแรกลงชื่อเข้าใช้ด้วยข้อมูลรับรองสําหรับการเชื่อมต่อใดก็ตามที่แอปต้องการ หากผู้ใช้รายนั้นเปิดแอปอีกครั้ง บุคคลนั้นอาจได้รับพร้อมท์อีกครั้ง โดยขึ้นอยู่กับนโยบายความปลอดภัยขององค์กร รับข้อมูลเมตา: เรียกข้อมูลเมตา เช่น เวอร์ชันของแพลตฟอร์ม Power Apps ที่แอปทํางานและแหล่งข้อมูลที่ต้องดึงข้อมูล เริ่มต้นแอป: ทํางานใดๆ ที่ระบุในคุณสมบัติ OnStart แสดงหน้าจอ: แสดงหน้าจอแรกด้วยตัวควบคุมที่แอปเติมข้อมูล หากผู้ใช้เปิดหน้าจออื่นแอปจะแสดงโดยใช้กระบวนการเดียวกัน ขั้นตอนการเรียกข้อมูลของ Power Apps รูปแบบแรกเป็นการเรียกข้อมูลที่อยู่บน…

Predictive Maintenance

Predictive Maintenance Predictive Maintenance คือ มักจะเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องมาจากการบำรุงรักษาตามสภาพหรือเชิงคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากระบบการตรวจวัดและเฝ้าระวัง จะถูกเก็บสะสมและนำมาวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดอาการเสียหายของเครื่องจักรในอนาคต ชนิดและรูปแบบของข้อมูลอาจเปลี่ยนไปตามประเภท และการใช้งานเครื่องจักร ข้อดีของการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์คือ ความสามารถในการวางแผนการหยุดเครื่องจักรเพื่อซ่อมบำรุงได้ก่อนที่เครื่องจักรนั้นจะแสดงอาการเสียหายออกมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการคงคุณลักษณะของชิ้นงานที่ถูกผลิตออกมาจากเครื่องจักรนั้น เป็นการลดความเสี่ยงของการถูกคัดออกของชิ้นงานที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ช่วยลดต้นทุนของเสียของสายการผลิต ความสำเร็จของการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์เกิดจากการเก็บข้อมูลจากเครื่องจักรอย่างถูกต้องและเพียงพอ ต้องมีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญ หรือโดยระบบเครื่องมือพิเศษ วิธีการทำ การรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT การที่เราจะทำ Predictive Maintenance ได้นั้นจะเห็นว่าต้องมีการรวบรวมข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งขบวนการรวมข้อมูล จะเป็นไปได้ก็ต้องอาศัยอุปกรณ์ IoT เป็นตัววัดค่าต่างๆ ที่เราต้องการ หลังจากเราได้ข้อมูลมาแล้วการนำข้อมูลไปจัดเก็บ และ วิเคราะห์ เป็นอีกเรื่องที่ต้องมีระบบมารองรับ ระบบ Azure IoT สามารถจัดเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT ด้วยการทำ Config ที่ใช้เวลาไม่มาก ประหยัดค่าใช้จ่าย ระบบ AI ( Machine Learning ) จะมาช่วยนำเข้อมูลที่เก็บไว้มาทำการวิเคราะห์ต่อไป IoT (Internet of…

Preventive Maintenance

Preventive Maintenance Preventive Maintenance คือ การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เป็นหนึ่งในรูปแบบการดูแลสภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ภายในโรงงาน ที่ใช้การตรวจสอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ต่างๆ ตามเวลาที่มีการกำหนดเอาไว้ เป้าหมายของการทำ Preventive Maintenance Replace worn Components before they fail : การตรวจสอบชิ้นส่วนและเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะเสียหายจนหยุดการทำงาน Clear and restore components before performance degrades : ทำความสะอาดและตรวจสอบการติดตั้ง เพื่อคงประสิทธิภาพการทำงานให้คงที่ Avoid the consequences of component of system failure : ป้องการส่วนประกอบต่าง ๆ จากการที่ระบบทำงานผิดพลาด Improve reliability and predictability : เพิ่มอายุการทำงานของอุปกรณ์ Train experts on proper procedure and…

Maintenance Solution

Maintenance Solution การบริหารจัดการ Maintenance อุปกรณ์ต่าง ๆ ถือว่าเป็นงาน Service ที่จำเป็นในทุกโรงงานที่ต้องมีทีม ที่ทำหน้าที่เรื่องนี้โดยตรง การจัดการข้อมูลเกี่ยวกับ Maintenance มีความสำคัญอย่างมาก Fusion ขอเสนอระบบการจัดการเกี่ยวกับบำรุงรักษา โดยใช้ Power Platform ที่มาพร้อมกับ Microsoft 365 ที่สามารถช่วยคุณในการ ทำระบบบันทึกข้อมูลการทำงานและการบริหารจัดการขั้นตอนการทำงานแบบ Automatic การจัดการข้อมูลการแจ้งซ่อม เริ่มจากระบบสามารถรองรับการแจ้งปัญหาจากหลายช่องทาง เช่น E-mail , Microsoft Form และจาก Web Apps ที่เปิดให้ทุกคนสามารถแจ้งได้ เมื่อระบบมีการแจ้งเข้ามาในช่องทางต่าง ๆ จะใช้ Microsoft Power Automate รับข้อมูล และนำมากรอกใน E-Form เพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในการทำงานในลำดับต่อไป ซึ่งตัวอย่าง Solution นี้ใช้ Microsoft 365 ในการพัฒนาขึ้น สำหรับบริษัทที่มี License อยู่แล้ว สามารถใช้…

Lead Score

Lead Score ระบบ CRM จะมี Feature เรื่องการประเมิน Lead ที่เข้ามาเราต้องมีการให้คะแนน เพื่อให้ Sales สามารถวางแผนการติดต่อได้อย่างเหมาะสม ระบบนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเพราะขบวนการหา Lead เรามีโอกาสที่ Lead จะไม่มีคุณภาพ ซึ่งอาจจะเกิดจาก Marketing ออก Promotion เพื่อดึงดูด Lead ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ไม่ใช่ตัวจริง แต่สนใจ Promotion ก็ติดเข้ามาด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีขบวนการกรอกข้อมูล ก็คือการประเมินคะแนนของ Lead นี้เอง ระบบที่สามารถประเมิน คะแนนของแต่ละ Lead จะมาจากข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกบันทึกได้ ซึ่งมีตั้งแต่ การบันทึกข้อมูลที่ครบถ้วน ความเร็วในการโต้ตอบ สถานะของ Lead ลักษณะการ Respond มูลค่าของ Lead ข้อมูลต่างๆ สามารถนำมาเป็น ข้อมูล เพื่อส่งต่อให้ระบบ Automate นำไปทำงานแบบอัตโนมัติต่อไป Lead Management Capture…

Manufacturing Dashboard

Manufacturing Dashboard ด้านการผลิต (Manufacturing) Key Manufacturing Insight – สามารถวิเคราะห์ตัวชี้วัดประสิทธิภาพการผลิตที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้อย่างรวดเร็ว เช่น การคำนวณค่า OEE, MTBF, MTTR เป็นต้น Production Planning and Control – วางแผนและควบคุมการผลิต ด้วยการรวบรวมข้อมุลการใช้วัตถุดิบ การบริหารคลังสินค้าและ ผลผลิต ให้สะดวกและง่ายต่อการตรวจสอบ Dashboard ยอดนิยมสำหรับด้านการผลิต Production Dashboard Production Quality Dashboard Manufacturing Cost Management Dashboard Manufacturing KPI Dashboard – Daily OOE Dashboard Production Dashboard ในตัวอย่างแดชบอร์ดการผลิตครั้งแรกนี้ เราจะดูกำลังการผลิตโดยรวมขององค์กร การมีตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพที่สำคัญทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตของบริษัทของคุณอยู่ที่ปลายนิ้วของคุณ ให้ภาพรวมที่ดีซึ่งช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพ ความไร้ประสิทธิภาพเป็นศัตรูตัวฉกาจของกระบวนการผลิตใดๆ ดังนั้นคุณต้องตื่นตัวและติดตามปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ระบุแนวโน้มที่ซ่อนอยู่ที่อาจเป็นอันตรายต่อกระบวนการ นั่นคือเหตุผลที่การสร้างแดชบอร์ดแบบมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมที่เน้นเครื่องนี้ ซึ่งแม้แต่ข้อมูลจำนวนน้อยที่สุดก็สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก การทราบปริมาณการผลิตโดยรวมของคุณเป็นสิ่งแรก ด้วยวิธีนี้ คุณจะมีแนวคิดว่าเครื่องที่ใช้งานของคุณกำลังจัดการกับอะไรในแต่ละวัน รายสัปดาห์ รายเดือน…

fianance

Finance Dashboard

Finance Dashboard Dashboard สำหรับ Finance อย่างเช่น P/L Dashboard และอีกหลายอย่าง เช่น ปกติ ระบบ ERP จะมีรายงาน ที่เขียนถึงไว้อยู่แล้ว แต่ ก็ยังมีความต้องการบางอย่างที่ ไม่ตอนโจทย์ ดังนั้นจึงมีความต้องการที่จะพัฒนาระบบ Dashboard ขึ้นมาเพิ่มเติม CFO Dashboard CFO ใช้แดชบอร์ดนี้เพื่อทำความเข้าใจว่าแต่ละทีม (ตามรัฐต่างๆ) ดำเนินการอย่างไรกับประมาณการรายได้ตามงบประมาณสำหรับปี รายรับจากงบประมาณรวมสำหรับปีอยู่ที่ 7.579 ล้านดอลลาร์ และจนถึงตอนนี้บรรลุถึง 6.058 ล้านดอลลาร์ (ตัวเลขในแดชบอร์ดจะแสดงเป็นทวีคูณของ 1,000 ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติทั่วไปในการบัญชี) ที่มุมล่างซ้าย เรายังสามารถดูได้ว่ารายรับติดตามจากการคาดการณ์อย่างไร การคาดการณ์ถูกสร้างขึ้นเมื่อต้นปีการเงินและอัปเดตตามปกติทุกไตรมาส ด้วยการสร้างการคาดการณ์ที่เป็นจริง ธุรกิจสามารถเข้าใจได้ดีขึ้นว่าพวกเขาอยู่ข้างหน้าหรือข้างหลังงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่พวกเขาคาดว่าจะเป็นในช่วงเวลานั้นของปี ในส่วนตรงกลาง CFO กำลังติดตามประสิทธิภาพของแต่ละทีมในรัฐต่างๆ พวกเขากำลังใช้ระบบแผนภูมิจุดเพื่อตั้งค่าสถานะทีมใด ๆ ที่มีความเสี่ยงที่จะไม่บรรลุเป้าหมายสำหรับปี สองทีมมีความเสี่ยงสูงและไม่น่าจะบรรลุเป้าหมาย สุดท้าย ทางด้านขวา เราจะเห็นประสิทธิภาพรายได้ปัจจุบันของทุกทีมเป็นสัดส่วนของรายได้เป้าหมายสำหรับปี Revenue dashboard แดชบอร์ดนี้กำลังติดตาม MRR (รายรับที่เกิดขึ้นประจำรายเดือน) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ธุรกิจที่สมัครใช้บริการจำนวนมากใช้เพื่อแสดงมุมมองระดับสูงเกี่ยวกับประสิทธิภาพรายได้ของพวกเขา บนแผนภูมิเส้นที่มุมซ้ายบน เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงสุทธิของ MRR – ค่าใดก็ตามที่มากกว่า 0…

Campaign Management

Campaign Management แผนการตลาดที่ประสบความสำเร็จสามารถช่วยให้คุณบรรลุหรือบรรลุวัตถุประสงค์การขายของคุณได้ สามารถเปลี่ยนผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าที่ไม่ซื้อผลิตภัณฑ์และบริการของคุณให้เป็นลูกค้าประจำ มีหกขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาแคมเปญการตลาดที่ชนะ: ขั้นตอนที่ 1: กำหนดวัตถุประสงค์และงบประมาณของคุณ ขั้นตอนที่ 2: ระบุกลุ่มเป้าหมายของคุณ ขั้นตอนที่ 3: สร้างข้อความของคุณ ขั้นตอนที่ 4: พัฒนากลยุทธ์สื่อของคุณ ขั้นตอนที่ 5: ใช้แคมเปญการตลาดของคุณ ขั้นตอนที่ 6: วัดผลและวิเคราะห์ผลลัพธ์ของคุณ ขั้นตอนที่ 1: กำหนดวัตถุประสงค์และงบประมาณของคุณ ทุกแคมเปญการตลาดต้องเริ่มต้นด้วยวัตถุประสงค์และงบประมาณ วัตถุประสงค์ของคุณอาจเป็นเพื่อให้ได้ลูกค้าเป้าหมายที่มีคุณสมบัติเหมาะสม อาจเป็นการเปลี่ยนโอกาสในการขายเป็นลูกค้าครั้งแรก หรืออาจเป็นการทำให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ  ไม่ว่าวัตถุประสงค์ของคุณจะเป็นอย่างไร คุณจะต้องมีงบประมาณที่คุณยินดีจ่ายเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย คุณอาจมีงบประมาณประจำปีที่เหมาะสมกับเงินทุนสำหรับแต่ละแคมเปญ หรือคุณอาจกำหนดแคมเปญในแผนธุรกิจประจำปีของคุณแล้ว มีสามวิธีทั่วไปที่บริษัทกำหนดงบประมาณการตลาดของตน: กำหนดงบประมาณของคุณตามงาน จับคู่งบประมาณของคู่แข่งโดยการประมาณการ เปอร์เซ็นต์ของการขาย จากข้อมูลของSmall Business Administrationบริษัทต่างๆ สามารถใช้จ่ายที่ใดก็ได้ระหว่าง 2 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายที่คาดการณ์ไว้สำหรับการตลาด จำนวนเงินที่คุณจัดสรรให้กับงบประมาณการตลาดของคุณนั้นขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมของคุณ ขนาดของธุรกิจของคุณ และขั้นตอนที่คุณอยู่ ยิ่งบริษัทของคุณอายุน้อยเท่าไหร่ เปอร์เซ็นต์ของยอดขายที่คาดการณ์ไว้สูงขึ้นคุณจะต้องประสบความสำเร็จ ขั้นตอนที่ 2: ระบุกลุ่มเป้าหมายของคุณ เมื่อคุณทราบวัตถุประสงค์และงบประมาณแล้ว คุณจะต้องระบุผู้ชมเป้าหมายของคุณ เหล่านี้คือบุคคลหรือบริษัทที่คุณจะกล่าวถึงแคมเปญของคุณ ยิ่งคุณกำหนดเป้าหมายได้เจาะจงมากเท่าไร ผลตอบแทนจากการลงทุนก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น การระบุตลาดเป้าหมายของคุณเกี่ยวข้องกับลักษณะทางประชากรศาสตร์และจิตวิทยาของผู้มีอำนาจตัดสินใจซื้อ คุณจะต้องรวมภูมิศาสตร์เป็นปัจจัยด้วย สำหรับการตลาดแบบ B2B อาจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม ขนาดของบริษัท ที่ตั้ง…