
Customize Software
บริษัท ฟิวชั่น โซลูชั่น จำกัด เราให้บริการพัฒนาซอฟต์แวร์ ( Customize Software ) โดยมุ่งเป้าไปที่การออกแบบ ทั้งในแง่ของวิศวกรรม และธุรกิจ โดยพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทต่างๆ ตั้งแต่ปี 2005 Fusion Solution ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ และยังรวมถึงบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น
- การให้คำปรึกษาด้านซอฟต์แวร์
- ติดตั้งระบบบน Cloud Service
- การ Integrate แอปพลิเคชัน
- และบริการอื่นๆ
โดยเราให้บริการพัฒนาซอฟต์แวร์แก่องค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ รวมถึงบริษัทผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ในหลากหลายประเภทธุรกิจ เช่น บริการทางการเงิน การผลิต การดูแลสุขภาพ และอื่นๆ
ประเภทของ CUSTOM SOFTWARE ที่เราให้บริการ
1. ระบบซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร
เราพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทำให้กระบวนการทั่วทั้งองค์กรเป็นไปโดยอัตโนมัติ และครอบคลุมถึงการจัดการข้อมูลระหว่างแผนก และอาจรวมถึงธุรกรรมกับลูกค้า ผู้ขาย และคู่ค้าด้วย
2. ซอฟต์แวร์สำหรับใช้ภายใน Department
เราพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยคุณสมบัติที่ไม่สามารถหาซอฟต์แวร์สำเร็จรูป หรือซอฟต์แวร์ฟรี เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของแผนกเฉพาะภายในองค์กรของคุณ
3. ซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจเฉพาะ
เราพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมฟังก์ชันเฉพาะเจาะจงกับธุรกิจ และอุตสาหกรรมของคุณโดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่ต้องปรับแต่งระบบดังเช่นกรณีที่ใช้ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปที่มีจำหน่ายในท้องตลาด
4. แอปพลิเคชัน Self-service สำหรับลูกค้า
เราสร้างแอปพลิเคชันที่ช่วยให้องค์กรของคุณมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าของคุณ เพื่อเอาชนะการแข่งขันในตลาด

ข้อดีของ CUSTOM SOFTWARE
- เลือกกำหนด และพัฒนาในรูปแบบที่คุณต้องการได้ (Specification)
คุณสามารถกำหนดได้เอง ที่จะเลือกพัฒนา และปรับปรุงซอฟต์แวร์ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้อย่างตรงจุดมากที่สุด องค์กรคุณจะสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง ทำให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างประโยชน์ให้กับสินค้าหรือบริการของคุณได้อย่างเหมาะสม
2. เลือกขยาย หรือปรับแต่งขนาดธุรกิจได้อย่างง่ายดาย (Scale)
คุณสามารถเลือกปรับแต่งขนาดทุกส่วนของเว็บไซต์ให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม มีความโดดเด่น และตรงตามความต้องการของธุรกิจคุณได้
3. เลือกลดต้นทุนได้ (Reduce Cost)
คุณสามารถเลือกลดต้นทุนได้ เพราะสามารถควบคุมต้นทุนได้ จากการปรับแต่งซอฟต์แวร์ด้วยตัวคุณเอง สามารถดำเนินการทุกส่วนได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน
5. ระยะเวลาใช้งานไม่จำกัด (Long Term)
เมื่อคุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ทำให้คุณจะสามารถปรับเปลี่ยน แก้ไข ปรับปรุง หรือพัฒนาได้อย่างเต็มที่ องค์กรคุณสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และยาวนานโดยไม่ถูกขัดจังหวะใดๆ
6. มีระบบความปลอดภัยที่ดี และเชื่อถือได้ (Security)
เนื่องจากเรามีซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ ซึ่งมาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดที่มีมาให้อยู่แล้ว อีกทั้งองค์กรยังสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลได้ด้วยตนเอง จึงป้องกันการโจมตีของข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
7. ใช้งานรวมกับ Workflow ได้อย่างง่ายดาย
การทำงานแบบ Workflow คือ การปรับการทำงานร่วมกันของแผนกต่าง ๆ ให้มีความเป็นระบบอัติโนมัติมากขึ้น ช่วยเพิ่มความคล่องตัว และลดระยะเวลา ลดความซ้ำซ้อนของขั้นตอนต่างๆ ลงได้อย่างมาก อีกทั้งซอฟต์แวร์ยังเป็นพื้นที่ส่วนกลางในการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ขององค์กรทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันในที่เดียว สามารถเข้าใช้งานได้จากทุกที่ ทุกเวลา มีความสะดวกรวดเร็วขึ้น แถมยังติดตั้งได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
DEVELOPMENT PROCESS WITH AGILE
Agile Methods เป็นการทำงานในรูปแบบของ Iterative Approach โดยเป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างรวดเร็ว เพื่อจัดส่งให้กับลูกค้า ให้มีการตรวจทานความต้องการได้รวดเร็ว ตรงตามความต้องการ Agile Method มีหลักการ และลักษณะที่สำคัญดังนี้
1. ต้องทำให้ลูกค้าพึงพอใจกับการส่งมอบงานที่มีคุณภาพอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง
2. การให้ลูกค้ามีส่วนร่วม (Customer Involvement) คือ ลูกค้าต้องมีบทบาทใกล้ชิดในกระบวนการพัฒนา เนื่องจากเราต้องเพิ่มความต้องการใหม่ตามความต้องการลูกค้า และพร้อมประเมินผลกระทบที่มีการเปลี่ยนแปลง
3. พร้อมรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงท้ายๆ ของการพัฒนาก็ตาม ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้ามีความได้เปรียบทางการแข่งขันมากที่สุด โดยทีม Agile จะต้องเตรียมการเพื่อจัดการกับความเปลี่ยนแปลง (Embrace Change) คือ คาดการณ์เกี่ยวกับความต้องการของระบบที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นควรออกแบบระบบให้ครอบคลุมกับสิ่งเหล่านั้นให้มากที่สุด
4. ทำให้ง่ายเข้าไว้ (Maintain Simplicity) คือ ไม่พยายามใช้เทคนิคในการพัฒนาที่มีความซับซ้อน เน้นความเรียบง่าย
5. ส่งมอบงานที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องทุกๆ สัปดาห์ ไปจนถึงทุกๆ เดือน ทั้งนี้เวลาโดยรวมจะต้องไม่ยาวนานเกินไป
6. บุคลากรที่เป็นผู้ใช้ และบุคลากรที่พัฒนาระบบจะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องจนเสร็จสิ้นโครงการ
7. สร้างแรงกระตุ้นให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับโครงการ โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และคอยสนับสนุนความต้องการ รวมถึงต้องเชื่อใจในแต่ละตัวบุคคลว่าจะสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้นได้โดยใช้ศักยภาพสูงสุด
8. วิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในทีม พัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือการ พูด คุย พบปะ และสนทนากันทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ
9. ชิ้นงาน หรือ Work Product ที่ใช้งานได้เป็นตัววัดตัวแรกของความก้าวหน้าของโครงการ
10. เน้นการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งผู้สนับสนุนโครงการ ผู้พัฒนา และผู้ใช้ จะต้องทำงานร่วมกันด้วยความก้าวหน้าแบบคงที่ ได้โดยมีข้อจำกัดน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย
11. การใส่ใจ และการติดตามเทคนิคที่ทันสมัย และการออกแบบที่ดีอย่างต่อเนื่อง จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น
12. โครงสร้าง ความต้องการ และการออกแบบที่ดีที่สุดเกิดขึ้นจากทีมงานพัฒนาที่มีการบริหารกันเอง
13. ทีมงานพัฒนาจะต้องทบทวนตัวเองว่าจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้อย่างไร และจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามข้อคิดเหล่านั้นตลอดเวลา