Preventive Maintenance
Preventive Maintenance คือ การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เป็นหนึ่งในรูปแบบการดูแลสภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ภายในโรงงาน ที่ใช้การตรวจสอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ต่างๆ ตามเวลาที่มีการกำหนดเอาไว้ เป้าหมายของการทำ Preventive Maintenance
- Replace worn Components before they fail : การตรวจสอบชิ้นส่วนและเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะเสียหายจนหยุดการทำงาน
- Clear and restore components before performance degrades : ทำความสะอาดและตรวจสอบการติดตั้ง เพื่อคงประสิทธิภาพการทำงานให้คงที่
- Avoid the consequences of component of system failure : ป้องการส่วนประกอบต่าง ๆ จากการที่ระบบทำงานผิดพลาด
- Improve reliability and predictability : เพิ่มอายุการทำงานของอุปกรณ์
- Train experts on proper procedure and techniques : พัฒนาความรู้ของทีม
รูปแบบการทำแผนงาน
1. แผน PM ตามระยะเวลา (Time-based Preventive Maintenance)
ในการกำหนดแผน PM โดยใช้เวลาเป็นตัวกำหนดเพื่อทำนายสภาพ และคุณสมบัติของเครื่องจักร ซึ่งในกรณีแรก จะใช้ในการเข้าไปทำกิจกรรมกับชิ้นส่วนที่มีความสำคัญต่อเครื่องจักรมากๆ ซึ่งชิ้นส่วนตัวนั้นของเครื่องจักรมีผลกระทบรุนแรงต่อเครื่องจักรมากๆ หากชิ้นส่วนนี้เกิดความเสียหาย จะส่งผลกระทบต่อเครื่องจักร และการผลิตของโรงงานได้ครับ
หรือสำหรับโรงงานที่เดินเครื่องจักร ที่มีระยะเวลาที่แน่นอนตลอด ขอยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจนะครับ เช่นสมมุติเรามีปั้ม 1 ตัว ในระยะเวลา 1 ปี ปั้มอาจจะมีการใช้งานตลอด 6,570 ชม (ใช้งาน 3 เดือน หยุด 1 เดือน; ตลอด 24 ชม) ก็สามารถกำหนดช่วงเวลาเข้าไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นทุกๆ 6 เดือน เป็นต้นนะครับ
2. แผน PM ตามปริมาณการใช้งาน (Usage-based Preventive Maintenance)
ในการกำหนดแผน PM ตามลักษณะปริมาณการใช้งานจะ “ชี้ชัดมากกว่า” แบบแผน PM ที่กำหนดตามระยะเวลา เพราะ สภาพ และคุณสมบัติของชิ้นส่วนเครื่องจักร รวมถึงชิ้นส่วนสิ้นเปลืองต่างๆ (Consume part) จะสามารถทำนายได้แม่นยำกว่าครับ
ยกตัวอย่างเช่น เราจะกำหนดเป็นแผนว่า เราจะเข้าไปทำกิจกรรมของเครื่องจักรทุกๆการใช้งาน กี่ ชม ที่ใช้งานเครื่องจักรจริงๆ ,ตามจำนวนครั้ง (Cycle) , หรือ ระยะทางที่ใช้งาน (ในกรณีของยานพาหนะ) เป็นต้นนะครับ
![](http://www.fusionsol.com/wp-content/uploads/sites/2/2022/09/image-20-1024x529.png)
การทำงานของ Engineer จะเข้าไปตรวจสอบการทำงานของระบบ ตามแผนงานที่กำหนด จุดที่ปัจจุบันทำกัน คือ การใช้เอกสารที่ระบุหัวข้อในการตรวจสอบ ไว้อย่างชัดเจน เช่น การวัดค่า ค่าที่วัดต้องอยู่ในช่วงเท่าไหร่ และ ต้องวัดอะไรบ้าง ซึ่งเอกสารพวกนี้ มีจำนวนมาก และ ทำให้การทำงานล่าช้า เพราะต้องนำไปสรุปเป็นข้อมูลอีกครั้ง เป็นการทำงานซ้ำซ้อน
นอกจากนี้ การทำ PM หลายครั้งอาจจะทำไม่ได้ตามแผน ทำให้แผนงานที่วางไว้ต้องมีการปรับเปลี่ยน ทำให้ต้องมีเจ้าหน้าที่คอย update แผนงานอยู่เสมอ ๆ
Form PM
![Preventive Maintenance form Template Fresh Preventative Maintenance Checklist for Apartments | Preventive maintenance, Checklist template, Maintenance checklist](https://i.pinimg.com/originals/09/46/ca/0946ca673920253cc0aa5d74cf3a0aa9.jpg)
การทำงานของ Engineer จะมี Form ที่เป็นกระดาษ ซึ่งทำให้การทำงานล่าช้า เพราะต้องเอาข้อมูลไปกรอกซ้ำ อีกระบบหนึ่งทำให้ขั้นตอนการสรุป ไม่ทันต่อเหตุการณ์ รวมถึงต้องใช้พนักงานส่วนการทำสรุปรายงานต่าง ๆ อีกด้วย
![](http://www.fusionsol.com/wp-content/uploads/sites/2/2022/09/image-21-1024x513.png)
เครื่องมือสร้าง E-Form
Microsoft 365 สามารถสร้าง E-Form สำหรับงาน Maintenance โดยเฉพาะระบบสามารถทำงานได้ทั้ง Mobile and Tablet สำหรับการบันทึกข้อมูลในพื้นที่ทำงาน
แนะนำ Power Platform สำหรับการสร้างระบบ Preventive Maintenance
” ชุดเครื่องมือที่ช่วยให้คนธรรมดาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยที่ไม่ได้เป็น Programmer แต่สามารถใช้งานได้เอง ” พอเรานิยามแบบนี้ ก็มีอีกคำที่เกี่ยวข้องด้วย คือ Low Code Development ที่หมายถึง การพัฒนา Application โดยไม่ต้องเขียน Code หรือ เขียนให้น้อยที่สุด
![Microsoft Dataverse คืออะไร - Power Apps | Microsoft Docs](https://docs.microsoft.com/th-th/power-apps/maker/data-platform/media/data-platform-cds-intro/platform.png)
ชุดของ Power Platform นี้ ไม่ได้เป็นคำเรียกทั่วไป แต่เป็น Microsoft ที่เรียกชุดเครื่องมือของเค้าเอง โดยชุดนี้ประกอบไปด้วย
- Power Apps
- Power Automate
- Power BI
- Power Virtual Agents
ข้อดีของการสร้างระบบบน Microsoft 365
- ไม่ต้องเสียค่าระบบแบบรายปี
- ไม่ต้องตั้ง Server
- ไม่มีค่า License
- สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้เองโดยไม่ต้องจ้างเพิ่ม
- พัฒนาได้รวดเร็ว ไม่เหมือนการเขียน Code แบบเดิม