Digital Marketing
คำนี้ ทุกคนกำลังวิ่งแบบหนีตาย ไม่ใช่วิ่งหนี แต่เป็นวิ่งเข้าหา
เหมือนโลกปัจจุบันใกล้จะแตก ร้านค้าแบบเดิมๆ ขายไม่ออก หรือ โดนแย่งจาก คู่แข่งที่ไม่รู้ว่าใคร ไม่ได้มาเปิดร้านตรงข้ามเรา ด้วยลูกค้าเราหายไปเฉยๆ
อันนี้ก็เป็นเพราะมีใครบางคนกำลังทำ Digital Marketing อยู่ ที่ไหนซักทีแล้วลูกค้าเราก็ไปซื้อที่เค้า ผมเริ่มทำงานในปี 2540 ต้มยำกุ้ง พอดี สมัยนั้นไม่มีใครรู้จักแต่ก็พอจะมี web มาบ้างแล้วนิดหน่อย จนมาถึงปี 2564 ตอนนี้เวลาผ่านไปแล้ว 24 ปี
ตอนปี 2561 ผมเริ่มสนใจ ขายของบน Web เพราะผมรู้สึกว่าผมขายของสู้คู่แข่งไม่ได้เลย ธุรกิจผมเป็นงานบริการ และ ก็มีส่วนขายของด้วย ปัญหาคือ ผมขายของได้น้อยมาก รายได้ผมมีแต่บริการ ที่เป็น Project เป็นหลัก ผมพยายามจะหาทางขายของแต่ Sales บอกว่าเราสู้เค้าไม่ได้ จริงตามที่ Sales บอก เวลา Search ข้อมูลทีไร เจอคู่แข่งทุกที แถมถูกว่าผมอีก และไม่ใช่ถูกธรรมดา ถูกกว่ามากกก
แต่ผมไม่ได้ไปขาย Hardware อย่างเค้านะ เพราะรู้ว่ายังไงก็สู้ไม่ได้ ผมเลย ทำ web แนะนำ Service ไปก่อน พอทำ web ไปก็ไม่เห็นอะไรดีขึ้นก็ยังทำนะเพราะมันไม่ได้เสียเวลาอะไร แค่ Update Content เขียนเล่าประสบการณ์ แล้วก็หาเครื่องมือมาวิเคราะห์ผลของการทำ web ของผมไปด้วย ( เสียเงิน ) มีเพื่อนผมให้คำแนะนำมาหน่อยนึงว่า
- เขียนให้แยะๆ มีคำซ้ำแยะๆ
- Update บ่อย ๆ แก้ไปแก้มา
นี้คือวิธีทำ web ของผมในสมัยแรกสุด ทำอยู่ 1 ปี ทำแบบยังไม่เห็นอะไรมาเลยเงียบมาก ไม่เคยมีลูกค้าติดต่อเข้ามาที่ office เลย ป่าช้ายังดังกว่า ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนนะ เพราะธุรกิจก็ยังเดินได้จาก Connection ที่เรามีอยู่
จุดเปลี่ยน
มีลูกค้าติดต่อเข้ามาบอกว่าเห็นข้อมูลจากใน web แรก ๆ เดือนละ 1,2 ราย หรืออย่างมาก 4 ราย ซึ่งกว่าจะเริ่มมีมาก็ทำ web ไป เกือบปี ซึ่งผมเริ่มรู้สึกตัวในปี 2562 ว่า แนวทาง Digital Marketing หาลูกค้าให้เราได้จริงๆ ครับ
เราจะเริ่มทำยังไงกับช่องทาง Digital Marketing กันดี เพราะช่องทางยุคหลัง โควิก ยังไงก็ต้องทำแน่ แล้วเราจะเริ่มยังกันดี ขอเล่าประสบกรณ์ การเปลี่ยนแปลงช่องทางการขายของ ที่บริษัทนะครับ เราเริ่มความคิดจะทำช่องทาง Digital Marketing ก็เนื่องจาก ช่องทางแบบเดิม ๆ ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของ บริษัทได้เลย
เพราะเราเสนอ Solution ที่ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะมองหา เรียกว่า โทรหาลูกค้า 100 ราย ไม่สนเลย 100 รายแบบนี้เลยครับผม หรือการขายสินค้าที่เป็นของตลาดซักหน่อย ก็รู้สึกว่าสู้ราคาคู่แข่งไม่ได้เลย เรียกว่า คู่แข่งมีเงินซื้อ Stock ได้ทุนถูกกว่า แบบนี้
เราเริ่มจากความ หงุดหงิด ในช่องทางที่เรามี เราเลยเริ่มทำ Web Fusion นี้แหละครับ พัฒนาเนื้อหา โดยเริ่มประมาณเดือน 11 ปี 2016 ครับ มาถึงวันนี้ก็ ผ่านมาแล้ว 3 ปี 6 เดือน ช่วงชีวิตช่วงเปลี่ยนแปลง ขอแบ่งเป็น 3 ช่วงนะครับ
- ช่วงเริ่มต้น ประมาณ 1 ปีแรก คือ ทำแบบไม่มีเป้าหมาย ทำ web แบบว่าไม่เป็นเลย ( อันนี้บริษัทำ Software นะเนีย ) ทำได้แค่เขียนเนื้อหาเพิ่มเข้าไปนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วก็ใช้เครื่องมือในการตรวจสอบว่า ทำแล้วเป็นยังไงแบบนี้
- ช่วงที่ 2 อีก 1 ปีถัดมา คือ web มีเนื้อหามากพอจน เริ่มมี Lead ที่ Search เจอ fusion และมีลูกค้า ติดต่อเข้ามา ซึ่งมี Call มาเรื่อย ๆ เดือนนึงซัก 3-4 งานแบบนี้ ซึ่งก็ถือว่าเห็นผลจากความพยายาม
- ช่วงที่ 3 คือช่วง 1 ปีถัดมาอีกจนถึงปัจจุบัน มีลูกค้าติดต่อเข้ามาจาก www.fusionsol.com ประมาณเดือนละ ไม่น้อยกว่า 10 ราย ซึ่งผมถือว่าแยะมากนะครับสำหรับบริษัท ที่พัฒนา App
- และในช่วงนี้ ถือว่าเป็น ช่วงของการเปลี่ยนแปลง เลย เพราะจากความรู้ที่สะสมมา เราเพิ่ม Web E-Commerce เต็มรูปแบบ Savemark.com ขึ้นมาครับ
ผมอยากจะบอกว่า ช่องทาง Digital Marketing เป็นความรู้พื้นฐานสำหรับการทำธุรกิจในยุคนี้ครับ บริษัทที่ทำเป็นจะได้เปรียบมากสุดๆ เพราะคุณจะเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย และ มีประสิทธิภาพการทำงานในแบบเดิมๆ มากครับ
แนะนำเครื่องมือ
เครื่องมือ ที่มาช่วยทำให้การทำ Digital Marketing ประสบความสำเร็จ มีอะไรบ้าง
- ระบบ CRM สำหรับบันทึก Lead ที่ได้มา
- ระบบ https://ahrefs.com/ สำหรับประเมินประสิทธิภาพของ web อาจจะแพงหน่อยสำหรับมือใหม่ แต่ขอบอกว่าคุ้มมากเพราะทำให้เราเห็นสถานะของเราเทียบกับคู่แข่งอย่างชัดเจน และ ช่วยให้เราทำการปรับปรุง Web อย่างมีทิศทาง
- ระบบ Dashboard สำหรับดึงข้อมูลจาก Google , Facebook , Youtube ตัวนี้จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการบริหารงบประมาณของช่องทางเป็นเรื่องที่ต้องละเอียดอ่อน
ทุกตัวมีความสำคัญหมด ถ้าจะเอาดีทางนี้ เราต้องมีเครื่องมือให้ครบ
Reference