Microsoft Build 2025 Part 6: Supporting the Agentic Web

ในงาน Microsoft Build 2025 Part 6 ไมโครซอฟท์ยังคงผลักดันวิสัยทัศน์ของเว็บแบบเปิดที่ขับเคลื่อนด้วย AI เอเจนต์ โดยมุ่งสนับสนุนมาตรฐานที่ช่วยให้ AI แบบสนทนาโต้ตอบกับเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น หัวใจสำคัญในส่วนนี้คือสองเทคโนโลยีหลัก ได้แก่ Model Context Protocol (MCP) และ Natural Language Web (NLWeb) ซึ่งถือเป็นแกนสำคัญในการสร้างปฏิสัมพันธ์ AI ที่น่าเชื่อถือและมีความยืดหยุ่นบนอินเทอร์เน็ต
6.1 Model Context Protocol (MCP)
Model Context Protocol เป็นโปรโตคอลที่ออกแบบมาเพื่อให้ AI agent เข้าใจและโต้ตอบกับบริบทเชิงโครงสร้างจากเว็บแอปพลิเคชันและระบบระบุตัวตน โดยถือเป็นกรอบการทำงานหลักในการสร้างประสบการณ์ AI ที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และนำไปใช้งานร่วมกันได้บนเว็บแบบเปิด
6.1.1 การมีส่วนร่วมของ Microsoft ด้านมาตรฐาน Identity และ Registry เพื่อสนับสนุนระบบ MCP
ไมโครซอฟท์แสดงบทบาทนำในการผลักดันมาตรฐาน MCP โดยให้ความสำคัญกับ 2 หัวข้อใหญ่:
มาตรฐาน Identity
ไมโครซอฟท์เสนอโมเดลการระบุตัวตนแบบกระจายศูนย์ ซึ่งเปิดทางให้ AI agent สามารถยืนยันตัวตนของผู้ใช้ อุปกรณ์ และบริการต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัยภายใต้ข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว
- Decentralized Identifiers (DIDs): ผู้ใช้สามารถยืนยันตัวตนได้โดยไม่ต้องพึ่งฐานข้อมูลศูนย์กลาง
- Verifiable Credentials: เอเจนต์สามารถตรวจสอบและเชื่อถือข้อมูลข้ามโดเมนได้
มาตรฐาน Registry
เพื่อให้ agent สามารถค้นหาและแบ่งปันบริบทได้อย่างปลอดภัย ไมโครซอฟท์สนับสนุนการพัฒนามาตรฐานรีจิสทรีแบบเปิดที่ช่วยให้ agent ดึง metadata ของแอปและบริการจากเว็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หมวดการสนับสนุน | รายละเอียด |
Identity Layer | กลไกการระบุตัวตนและยืนยันแบบกระจายศูนย์ |
Context Registry | รีจิสทรีร่วมสำหรับ metadata ของแอป การกระทำ และข้อมูล |
Governance | ความร่วมมือกับ W3C, OpenSSF และชุมชนมาตรฐาน AI |
ด้วยความร่วมมือเหล่านี้ ไมโครซอฟท์ยกระดับความน่าเชื่อถือของ AI บนเว็บ เปลี่ยนเว็บเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นอินเทอร์เฟซอัจฉริยะที่เข้าใจและตอบสนองผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ
Additional resources:
- Blog: Securing the Model Context Protocol: Building a safer agentic future on Windows
- Download: GitHub Repository
6.2 NLWeb: Natural Language Web
6.2.1 NLWeb เปลี่ยนหน้าเว็บให้กลายเป็นอินเทอร์เฟซสนทนา
NLWeb หรือ Natural Language Web คือความริเริ่มจากไมโครซอฟท์ที่มุ่งนำความสามารถด้านภาษาธรรมชาติมาใส่ลงในหน้าเว็บโดยตรง เปลี่ยนประสบการณ์เว็บแบบเดิมให้กลายเป็นการสนทนาแบบเอเจนต์
ฟีเจอร์หลักของ NLWeb:
- HTML + NL Metadata: นักพัฒนาสามารถฝัง metadata ลงใน HTML เพื่ออธิบายการกระทำ ความตั้งใจ และข้อมูลที่สามารถใช้งานได้
- AI Agent Parsing: เอเจนต์สามารถวิเคราะห์ metadata เพื่อเข้าใจคำถามและตอบสนองอย่างเหมาะสม
- Contextual Memory: หน้าเว็บสามารถจดจำคำถามหรือการกระทำก่อนหน้าเพื่อสนทนาได้อย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างการใช้งาน NLWeb:
กรณีใช้งาน | คำอธิบาย |
เว็บไซต์ช้อปปิ้ง | “หารองเท้าผ้าใบสีแดงรุ่นใหม่ไม่เกิน 3,000 บาท” |
พอร์ทัลราชการ | “ต่ออายุใบขับขี่ของฉัน” |
แดชบอร์ดองค์กร | “แสดงยอดขายไตรมาสล่าสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” |
แพลตฟอร์มการศึกษา | “สรุปบทเรียน 3 บทล่าสุด พร้อมแบบทดสอบคำสำคัญ” |
ประโยชน์ต่อนักพัฒนา:
- ไม่ต้องฝึกโมเดล AI เอง
- ใช้ markup แบบ semantic ที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้
- เข้ากันได้กับ Microsoft Copilot และ agent อื่น ๆ
NLWeb จึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่เป็นความเคลื่อนไหวด้านมาตรฐานแบบเปิดที่ช่วยนักพัฒนาสร้างเว็บแบบ agentic ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Additional resources:
- Blog: Introducing NLWeb: Bringing conversational interfaces directly to the web
- Download: NLWeb GitHub repo
สรุป: เส้นทางสู่อินเทอร์เน็ตแห่ง Agent
Microsoft Build 2025 Part 6 ไม่ใช่แค่การอัปเดตเทคโนโลยี แต่มันคือนิมิตของเว็บในอนาคตที่ถูกขับเคลื่อนโดย AI agents ที่น่าเชื่อถือ ไมโครซอฟท์วางรากฐานของเว็บยุคใหม่ผ่านมาตรฐานอย่าง MCP และโครงการอย่าง NLWeb ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสร้างเว็บที่เข้าใจภาษามนุษย์ได้ดีขึ้น และโต้ตอบกับผู้ใช้อย่างชาญฉลาด
โลกออนไลน์ในอนาคตจะเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้งานรู้สึกว่าเว็บเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของออนไลน์ การทำงานใน Microsoft 365 หรือการสร้างแอป AI ของตนเอง
ติดตามต่อไป—อนาคตของ Agentic Web กำลังกลายเป็นความจริงของการใช้งานอินเทอร์เน็ตในทุก ๆ วันของเรา
สนใจผลิตภัณฑ์และบริการของ Microsoft หรือไม่ ส่งข้อความถึงเราที่นี่
สำรวจเครื่องมือดิจิทัลของเรา
หากคุณสนใจในการนำระบบจัดการความรู้มาใช้ในองค์กรของคุณ ติดต่อ SeedKM เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้ภายในองค์กร หรือสำรวจผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Jarviz สำหรับการบันทึกเวลาทำงานออนไลน์, OPTIMISTIC สำหรับการจัดการบุคลากร HRM-Payroll, Veracity สำหรับการเซ็นเอกสารดิจิทัล, และ CloudAccount สำหรับการบัญชีออนไลน์
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้และเครื่องมือการจัดการอื่นๆ ได้ที่ Fusionsol Blog, IP Phone Blog, Chat Framework Blog, และ OpenAI Blog.
ถ้าอยากติดตามข่าวเทคโนโลยีและข่าว AI ที่กำลังเป็นกระแสทุกวัน ลองเข้าไปดูที่ เว็บไซต์นี้ มีอัปเดตใหม่ๆ ให้ตามทุกวันเลย!
Related Articles
Frequently Asked Questions (FAQ)
Agentic Web คืออะไร?
Agentic Web หมายถึงแนวคิดของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่เว็บเพจและแอปต่างๆ สามารถทำงานแบบ “ตัวแทน” (Agentic) โดยใช้ AI ที่มีความสามารถในการตัดสินใจ ดำเนินการ หรือโต้ตอบอย่างชาญฉลาด แทนผู้ใช้งาน
Agentic Web แตกต่างจาก Web 2.0 อย่างไร?
Web 2.0 เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ (เช่น โซเชียลมีเดีย) ขณะที่ Agentic Web เน้นให้ AI หรือ agent ดำเนินการอัตโนมัติ เช่น จองตั๋ว ตอบอีเมล หรือจัดการงานผ่านเว็บโดยไม่ต้องมีการคลิกหรือกรอกข้อมูลทุกอย่างด้วยตนเอง
เทคโนโลยีใดที่อยู่เบื้องหลัง Agentic Web?
เทคโนโลยีหลักที่ขับเคลื่อน Agentic Web ได้แก่:
- ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
- Agent-based systems
- Large Language Models (เช่น GPT)
- APIs และการทำงานร่วมกับบริการต่าง ๆ ผ่าน automation frameworks
ตัวอย่างการใช้งาน Agentic Web มีอะไรบ้าง?
- ผู้ช่วย AI บนเว็บที่สามารถทำธุรกรรมให้ได้โดยอัตโนมัติ
- หน้าเว็บที่ตอบสนองตามเป้าหมายผู้ใช้ เช่น จองเที่ยวบินหรือทำสรุปรายงาน
- ระบบการเรียนรู้ที่ปรับเปลี่ยนเนื้อหาตามระดับผู้เรียนแบบอัตโนมัติ
อนาคตของ Agentic Web คืออะไร?
Agentic Web มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อผสานเข้ากับ Web3, decentralized identity และ AI ที่มีความเข้าใจบริบทมากขึ้น ผู้ใช้จะมีประสบการณ์ใช้งานเว็บที่ “ให้คำสั่งครั้งเดียว ระบบทำให้ครบ” ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมการใช้เว็บจาก “การใช้งานด้วยมือ” ไปสู่ “การควบคุมผ่านเจตนา”