Power Apps and Power Automate licensing
ประเภท License Power Apps มีกี่แบบ
สำหรับประเภทที่นำเสนอไม่รวมถึง PowerApps ที่มาพร้อมกับ Microsoft 365
- Power Apps per app plan
- $5/user/app/month
- สามารถใช้ Full Feature ของ Power Apps ได้แค่ 1 App เท่านั้น
- พัฒนาในหมวด Model Driven
- สามารถใช้งาน Dataverse และ เชี่อมต่อ Database MS SQL
- Power Apps per user plan
- $20/user/app/month
- สามารถใช้ Full Feature ของ Power Apps ได้ไม่จำกัดจำนวน App
- พัฒนาในหมวด Model Driven
- สามารถใช้งาน Dataverse และ เชี่อมต่อ Database MS SQL
- Power Apps pay-as-you-go plan
- แบบใช้ก่อนจ่ายทีหลังเหมือนซื้อบริการ ของ Azure
- พัฒนาในหมวด Model Driven
แนวทางการเลือก License PowerApps
ปกติ License PowerApps and Automate จะมีมาให้แล้วในชุด Microsoft 365 ซึ่งจะเหมาะสำหรับการพัฒนาในบางประเภท เช่น การทำ Paperless การทำหน้า Web or Mobile สำหรับ ทำ Interface ในการบันทึกข้อมูล ลง SharePoint
แต่ถ้าเราต้องการให้ เชื่อมกับ MS SQL หรือ Dataverse เราถึงจะใช้ Package ตามที่เขียนไว้
การจะเลือก Package จะไม่มีความแตกต่างกันในเรื่อง Feature ดังนั้นก็เหลือประเด็น คือ เลือกแบบไหนถึงจะประหยัดที่สุด ซึ่งจากที่ขายมา พบว่า จะมี 2 ตัวเลือก คือ 5 , 20 $ ที่จะเลือกกัน แต่กรณีของ Pay as you go ยังไม่เคยเจอและ ค่อยข้างซับซ้อนกว่าที่จะใช้ได้ครับ
Power Apps Free กับ Per User
สำหรับกรณีของ Power Apps ที่เสียเงิน กับ ฟรี ความแตกต่างที่น่าสนใจคือ การพัฒนาระบบในหมวด Model Driven ในหมวดนี้ใน Power Apps Free จะไม่มีมาให้ ดังนั้นผมจะขอ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Model Driven ว่าแตกต่างกับ Canvas ยังไง
- ความง่าย
- Model Driven ง่ายกว่า เรียกได้ว่า พอเราสร้างฐานข้อมูลที่ต้องการบันทึกเสร็จ ตัว Model Driven ก็แทบจะทำ Interface ออกมาได้ทันที
- Canvas ยากกว่า เราต้องมาจัดเรียง Interface เอง ระบบให้ความยืดหยุ่นกว่า Driven สามารถจัดหน้าได้ตรงกับความต้องการได้ แต่ก็เสียเวลาในการจัดการพอสมควร
- รองรับฐานข้อมูลขนาดใหญ๋
- Model Driven มีความพร้อมมากกว่า สามารถติดต่อกับฐานข้อมูล SQL และ Dataverse
- Canvas ไม่เหมาะสำหรับการทำงานกับข้อมูลจำนวนมาก