IoT Data
คือ การจัดการข้อมูลต่าง ๆ ที่เก็บจาก Censer ของอุปกรณ์ IoT มาเก็บที่ ศูนย์ข้อมูลส่วนกลาง เพื่อนำมาวิเคราะห์และเอามาใช้ประโยชน์ต่อไป เช่น เชื่อมต่อไปที่ Power BI สำหรับทำ View ในการวิเคราะห์
ทำไมถึงเลือกใช้ Azure IoT
Azure Internet of Things (IoT) คือชุดของบริการคลาวด์ที่จัดการโดย Microsoft ซึ่งเชื่อมต่อ ตรวจสอบ และควบคุมสินทรัพย์ IoT หลายพันล้านรายการ ในแง่ที่ง่ายกว่า โซลูชัน IoT ประกอบด้วยอุปกรณ์ IoT หนึ่งเครื่องขึ้นไปที่สื่อสารกับบริการแบ็คเอนด์ตั้งแต่หนึ่งรายการขึ้นไปที่โฮสต์อยู่ในระบบคลาวด์
ซึ่ง มีจุดเด่น คือ เป็นระบบที่ทำ Config ไว้แล้วสามารถเรียกใช้ได้ทันที และมีเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลมาให้พร้อมแล้วในระบบอีกด้วย ถ้าเราใช้ MS SQL เป็นอยู่แล้วจะใช้เวลาในการเรียนรู้น้อยลง
IoT มีกี่ประเภท
ปัจจุบัน IoT แบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่
- Industrial IoTs: แบ่งจาก Local Network มีหลายเทคโนโลยีที่แตกต่างกันในโครงข่าย Sensor Nodes โดยตัวอุปกรณ์ IoT Device ในกลุ่มนี้ จะเชื่อมต่อแบบ IP Network เพื่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ต
- Commercial IoTs: แบ่งจาก Local Communication ที่เป็น Bluetooth หรือ Ethernet (Wired Or Wireless) โดยตัวอุปกรณ์ IoT Device ในกลุ่มนี้จะสื่อสารภายในกลุ่ม Sensor Nodes เดียวกันเท่านั้นหรือเป็นแบบ Local devices เพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้เชื่อมสู่อินเตอร์เน็ต
ตัวอย่างของการใช้ข้อมูลจาก IoT
1. British Telecommunications (BT) กับการใช้ Sensor ตรวจวัดตำแหน่งของสาย Cable ที่มีปัญหา
BT ได้ใช้เทคโนโลยี Location Intelligence จาก Pitney Bowes เพื่อติดตามตำแหน่งต่างๆ ที่เกิดปัญหาภายในระบบเครือข่ายและสาย Cable ในพื้นที่ให้บริการตามอาคารต่างๆ ของลูกค้า ทำให้การให้บริการด้านการสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่นขึ้นทั้งในแง่ของการติดตั้งและการแก้ไขปัญหา
2. Siemens เปลี่ยนฟาร์มผลิตไฟฟ้าพลังงานลมให้กลายเป็นระบบอัจฉริยะ
Siemens เป็นหนึ่งในผู้นำทางทางด้านเทคโนโลยีพลังงานลมของโลก และได้นำเทคโนโลยี RTI Messaging Software ร่วมกับ Sensor ต่างๆ เพื่อติดตามการทำงานของกังหันผลิตไฟฟ้านับหลายร้อยตัว และทำ Predictive Maintenance ล่วงหน้า พร้อมทั้งการปรับแต่งค่าการทำงานของกังหันให้เหมาะกับสภาพลมในแต่ละช่วงเวลา
3. UPS ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตามเส้นทางการเดินรถ
UPS ทำการติดตั้ง GPS Tracking และระบบ Sensor ตรวจวัดการทำงานของรถยนต์ตั้งแต่ปี 2008 เพื่อค้นหารูปแบบของเส้นทางการเดินรถที่สั้นที่สุดและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด โดยระบบ On-Road Integrated Optimization and Navigation (ORION) ของ UPS ก็ได้นำข้อมูลทั้งหมดนี้มาวิเคราะห์และช่วยให้ UPS ประหยัดน้ำมันไปได้แล้ว 1.5 ล้านแกลลอนจากการเดินรถด้วยกัน 10,000 เส้นทาง และเตรียมจะขยายการวิเคราะห์ข้อมูลนี้เพิ่มไปถึง 55,000 เส้นทางภายในปี 2017
4. Ochsner ใช้อุปกรณ์ IoT ทางการแพทย์ผสานเข้ากับระบบข้อมูลผู้ป่วย
Ochsner Health System ได้ทำการผสานระบบ Electronic Health Record (EHR) ที่มีชื่อว่า Epic เข้ากับอุปกรณ์ Wearable และ IoT เพื่อช่วยให้ได้รับข้อมูลและสื่อสารกับผู้ป่วยได้มากขึ้น และปรับปรุงผลการรักษาให้ดีขึ้นได้จากการนำข้อมูลสุขภาพแบบ Real-time จากอุปกรณ์ IoT ที่ติดตามตัวผู้ป่วยเพื่อวัดค่าต่างๆ มาส่งต่อให้ระบบ Epic เพื่อให้แพทย์สามารถติดตามข้อมูลทางสุขภาพได้โดยตลอด และสามารถวินิจัยอาการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
5. AT&T กับเทคโนโลยีการติดตามตู้ Container ด้วย IoT
สำหรับธุรกิจต่างๆ ที่มีบริการขนตู้ Container นั้น ทาง AT&T ได้มีโซลูชั่น IoT Data และระบบเครือข่ายสำหรับติดตามตู้ Container และรถขนตู้ Container ได้แบบ Real-time เพื่อลดการฉ้อโกงลง, ติดตาม Inventory ได้แม่นยำ และบริหารจัดการการขนส่งได้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน
ตัวอย่างการใช้ ข้อมูลจาก IoT ของ Zebra ร่วมกับ MS Team ที่ส่ง ข้อมูล อุณหภูมิ เข้าสู่ Team ที่อยู่ในมือถือของพนักงานที่ดูแลระบบ และ สามารถส่งงานต่อให้ Support ได้ทันที
IoT Data กับสุขภาพ
การดูแลสุขภาพแบบ DIY (Do it yourself) ต่อไปจะไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่จะกลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับประเทศที่มีประชากรสูงอายุเป็นจำนวนมาก อุปกรณ์ที่แรกเริ่มเป็นการตรวจติดตามความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายผ่านสายรัดข้อมืออัจฉริยะ จะกลายเป็น gadgets ที่จะตรวจติดตามสุขภาพเพื่อการป้องกันโรค ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล
ตัวอย่างหนึ่งของแนวคิดการวินิจฉัยสุขภาพด้วยระบบ IoT จากอุปกรณ์ภายในบ้าน เรียกว่า Flow Health Hub อุปกรณ์ข้างตัว ที่สามารถเก็บตัวอย่างและวัดระดับคลอเลสเตอรอล, ระดับน้ำตาลในเลือด และความดันได้อย่างรวดเร็ว และสามารถส่งสัญญาณเตือนไปยังแพทย์ประจำตัวของผู้ป่วยหากเกิดความผิดปกติที่ต้องการการรักษา
จากงานวิจัยของ Arqiva and YouGov ในเดือนพฤษภาคม 2015 พบว่า 72% ของชาวอังกฤษเชื่อว่าเทคโนโลยีในการตรวจติดตามสุขภาพที่ใช้ในบ้านจะสามารถลดความกดดันของผู้ป่วยได้ โดย 91% กล่าวว่าพวกเขาจะเตรียมตัวเพื่อรับการตรวจติดตามสุขภาพพื้นฐานที่เป็นเรื่องสำคัญๆ เช่น ความดันโลหิต (72%) อัตราการเต้นของหัวใจ (65%) และน้ำหนัก (88%) ซึ่งสามารถทำได้ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่บ้าน
อุปกรณ์ IoT Data
โดยทั่วไปอุปกรณ์ IoT จะประกอบด้วยแผงวงจรที่มีเซ็นเซอร์เชื่อมต่ออยู่ ซึ่งใช้ WiFi เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น:
- เซ็นเซอร์ความดันบนปั๊มน้ำมันระยะไกล
- เซ็นเซอร์อุณหภูมิและความชื้นในเครื่องปรับอากาศ
- มาตรความเร่งในลิฟต์
- เซ็นเซอร์แสดงตนในห้อง
มีอุปกรณ์หลากหลายจากผู้ผลิตหลายรายเพื่อสร้างโซลูชันของคุณ สำหรับรายการอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองให้ทำงานกับ Azure IoT Hub โปรดดูที่ แค ตตาล็อกอุปกรณ์ Azure Certified for IoT สำหรับการสร้างต้นแบบ คุณสามารถใช้อุปกรณ์ ต่างๆเช่นMXChip IoT DevKitหรือRaspberry Pi Devkit มีเซ็นเซอร์ในตัวสำหรับอุณหภูมิ ความดัน ความชื้น และไจโรสโคป มาตรความเร่ง และเครื่องวัดความเข้มข้นของสนามแม่เหล็ก Raspberry Pi ให้คุณติดเซ็นเซอร์ได้หลายประเภท
Microsoft มี Device SDKแบบโอเพนซอร์สที่คุณสามารถใช้สร้างแอปที่ทำงานบนอุปกรณ์ของคุณได้ SDK เหล่านี้ลดความซับซ้อนและเร่งการพัฒนาโซลูชัน IoT ของคุณ
อุปกรณ์ IoT ที่ได้รับ Certified จาก Microsoft
สำหรับโรงงานที่ต้องการอุปกรณ์ที่ได้รับ Certified สามารถหาได้จาก IOT นี้ครับ