ความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูลทั่วไป 5 ประการและวิธีป้องกันด้วย DLP อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลคือทรัพยากรสำคัญขององค์กรยุคใหม่ แต่ด้วยการเพิ่มขึ้นของการทำงานจากระยะไกล การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ และนโยบาย BYOD (Bring Your Own Device) ทำให้ Data Loss Risks เกิดขึ้นบ่อยและสร้างความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิม การรั่วไหลของข้อมูลไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่ผลกระทบทางการเงินและกฎหมายที่รุนแรง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงที่พบบ่อยที่สุดและวิธีที่ Data Loss Prevention (DLP) สามารถช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการปกป้องธุรกิจของคุณ
ความสำคัญของ Cybersecurity และ Data Loss Prevention (DLP)
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน Cybersecurity มีความสำคัญมากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ต่างก็เผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น เช่น การรั่วไหลของข้อมูล การโจมตีแบบ Ransomware และภัยจากบุคคลภายใน หนึ่งในความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือ Data Loss Risks ซึ่งสามารถสร้างผลกระทบทางการเงิน กฎหมาย และชื่อเสียงต่อองค์กรได้อย่างรุนแรง องค์กรจึงต้องปกป้องข้อมูลสำคัญ เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา ข้อมูลลูกค้า และบันทึกทางการเงิน เพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจและการปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมาย ซึ่ง DLP ถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ Cybersecurity ที่แข็งแกร่ง
ความเสี่ยงที่พบบ่อยของ Data Loss Risks
- การแชร์ข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ
ความเสี่ยง:
พนักงานมักส่งไฟล์สำคัญผิดคนผ่านอีเมล บริการคลาวด์ หรือแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกัน หรือปล่อยให้ข้อมูลเข้าถึงได้แบบสาธารณะโดยไม่ตั้งใจ
DLP ช่วยอย่างไร:
- ตรวจสอบข้อมูลในอีเมลและไฟล์ที่ส่งออกโดยอัตโนมัติเพื่อค้นหาข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
- บังคับใช้การเข้ารหัสหรือบล็อกการส่งข้อมูลหากตรวจพบการละเมิดนโยบาย
- แจ้งเตือนผู้ใช้แบบเรียลไทม์เพื่อป้องกันการแชร์ข้อมูลผิดพลาด
- ภัยคุกคามจากบุคคลภายใน
ความเสี่ยง:
พนักงานที่ไม่พอใจหรือประมาทอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ซึ่งมักเป็นการรั่วไหลที่ตรวจจับได้ยากหากไม่มีมาตรการควบคุมที่เหมาะสม
DLP ช่วยอย่างไร:
- ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของข้อมูลภายในองค์กรและระบุพฤติกรรมที่น่าสงสัย
- กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงและนโยบายตามบทบาทเพื่อลดความเสี่ยงในการเข้าถึงหรือโอนย้ายข้อมูลที่สำคัญ
- บันทึกและตรวจสอบกิจกรรมเพื่อใช้ในการสืบสวนย้อนหลัง
- ช่องโหว่ของการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์
ความเสี่ยง:
แอปพลิเคชันบนคลาวด์ที่ไม่มีความปลอดภัยหรือการตั้งค่าที่ผิดพลาดอาจทำให้ข้อมูลธุรกิจสำคัญรั่วไหลหรือถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
DLP ช่วยอย่างไร:
- ผสานรวมกับบริการคลาวด์เพื่อบังคับใช้นโยบายด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
- ตรวจจับและปกป้องข้อมูลสำคัญในแอป SaaS, พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ และเครื่องมือทำงานร่วมกัน
- ช่วยแก้ไขการตั้งค่าที่ผิดพลาดด้วยข้อมูลเชิงลึกด้านความปลอดภัย
- การโจมตีแบบ Phishing และ Malware
ความเสี่ยง:
อีเมลฟิชชิงหรือมัลแวร์สามารถหลอกให้พนักงานเปิดเผยข้อมูลเข้าสู่ระบบ หรือดาวน์โหลดไฟล์อันตราย นำไปสู่การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
DLP ช่วยอย่างไร:
- ตรวจจับและบล็อกการแชร์ข้อมูลสำคัญที่ไม่ได้รับอนุญาต แม้อุปกรณ์จะถูกบุกรุก
- ทำงานร่วมกับเครื่องมือรักษาความปลอดภัยของอีเมลเพื่อป้องกันไม่ให้ฟิชชิงกลายเป็นการรั่วไหลของข้อมูล
- ระบุรูปแบบการส่งออกข้อมูลที่ผิดปกติ
- อุปกรณ์ที่สูญหายหรือถูกขโมย
ความเสี่ยง:
อุปกรณ์ เช่น แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน หรือ USB ที่มีข้อมูลสำคัญอาจสูญหายหรือถูกขโมย ทำให้ข้อมูลมีความเสี่ยงที่จะถูกเปิดเผย
DLP ช่วยอย่างไร:
- บังคับใช้การเข้ารหัสในอุปกรณ์ปลายทางเพื่อปกป้องข้อมูล แม้อุปกรณ์จะสูญหาย
- รองรับความสามารถในการลบข้อมูลจากระยะไกลเพื่อกำจัดข้อมูลสำคัญออกจากอุปกรณ์ที่สูญหายหรือถูกขโมย
- จำกัดการใช้งานอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกตามนโยบาย
ประเภทของ DLP Methods
โซลูชัน DLP มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับวิธีการติดตั้งและกรณีการใช้งาน โดยแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้:
- Network DLP
ตรวจสอบและปกป้องข้อมูลในขณะที่เคลื่อนที่ผ่านเครือข่าย ป้องกันการแชร์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมล แชท แอปพลิเคชันบนเว็บ และช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ
- Endpoint DLP
ติดตั้งบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ (เช่น แล็ปท็อป เดสก์ท็อป) เพื่อควบคุมการถ่ายโอนข้อมูลไปยังอุปกรณ์ภายนอก (USB, ฮาร์ดดิสก์ภายนอก) หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ช่วยรักษาความปลอดภัยข้อมูลโดยตรงบนเครื่องของผู้ใช้
- Cloud DLP
ปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนซึ่งจัดเก็บหรือประมวลผลในบริการคลาวด์ เช่น Microsoft 365, Google Workspace และ Salesforce โดย Cloud DLP ช่วยให้มั่นใจว่านโยบายความปลอดภัยถูกบังคับใช้อย่างต่อเนื่องในแอปพลิเคชันบนคลาวด์
- Storage DLP
สแกนและปกป้องข้อมูลที่จัดเก็บในที่เก็บข้อมูล เช่น ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล และที่เก็บข้อมูลอื่น ๆ เพื่อช่วยระบุและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ไม่ได้จัดโครงสร้างอย่างเหมาะสม
อะไรคือคุณสมบัติของ DLP ที่น่าเชื่อถือ?
DLP ที่น่าเชื่อถือควรมีคุณสมบัติดังนี้:
- ครอบคลุมทั้ง Endpoint, Network และ Cloud
- ผสานรวมกับโซลูชันความปลอดภัยที่ใช้งานอยู่ได้อย่างไร้รอยต่อ
- ป้องกันภัยคุกคามขั้นสูงด้วย AI และ Machine Learning
- นโยบายที่จัดการได้ง่ายและมีระบบอัตโนมัติสำหรับการตอบสนองต่อเหตุการณ์
- รองรับการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น GDPR, HIPAA และ PCI-DSS
องค์กรควรให้ความสำคัญกับผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงและมีผลงานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในด้านความปลอดภัยระดับองค์กร
ทำไมต้องเลือก Microsoft Purview DLP?
- ทำงานร่วมกับ Microsoft 365 ได้อย่างสมบูรณ์
Microsoft Purview DLP ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันใน Microsoft 365 เช่น Outlook, Teams, SharePoint และ OneDrive ได้อย่างไร้รอยต่อ ช่วยให้ปกป้องข้อมูลได้โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้
- การจัดการนโยบายแบบศูนย์กลาง
ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการนโยบาย DLP สำหรับ Endpoint, Cloud และอีเมลได้จากพอร์ทัล Microsoft Purview compliance เดียว ช่วยลดความซับซ้อนและภาระงานในการจัดการ
- ความสามารถของ AI และ Machine Learning
Microsoft Purview DLP ใช้ AI ในการตรวจจับรูปแบบข้อมูลที่ละเอียดอ่อน (เช่น หมายเลขบัตรเครดิต เวชระเบียน) และป้องกันการส่งออกข้อมูลก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์จริง
- การผสานกับ Insider Risk Management
นอกจาก DLP แล้ว Purview ยังผสานกับโซลูชัน Insider Risk Management และ eDiscovery ของ Microsoft เพื่อการปกป้องข้อมูลที่ครอบคลุมและสมบูรณ์แบบ
- เน้นการปฏิบัติตามข้อกำหนด
Purview ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมาย เช่น GDPR, HIPAA และ CCPA ด้วยคุณสมบัติการจัดทำรายงาน การเก็บ Log และการบังคับใช้นโยบายโดยอัตโนมัติ
ภาพรวมและราคาของ Microsoft Purview
Microsoft Purview คือแพลตฟอร์มแบบครบวงจรของ Microsoft สำหรับการจัดการข้อมูล การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการบริหารความเสี่ยง ประกอบด้วยเครื่องมือหลากหลาย เช่น:
- Information Protection (การติดฉลากและเข้ารหัสข้อมูล)
- Insider Risk Management
- Data Loss Prevention (DLP)
- Communication Compliance
- eDiscovery
- Audit Logs
ภาพรวมราคา
Microsoft Purview DLP รวมอยู่ในหลายแพ็คเกจของ Microsoft 365 Compliance:
License Plan | รวม DLP Features | ราคาประมาณ (USD) |
Microsoft 365 E3 | DLP พื้นฐานสำหรับ Exchange Online, SharePoint, Teams | $36 ต่อผู้ใช้/เดือน |
Microsoft 365 E5 Compliance | DLP ขั้นสูง + Insider Risk Management | $12 ต่อผู้ใช้/เดือน (เสริม) |
Microsoft 365 E5 | DLP เต็มรูปแบบ + AI, Insider Risk, eDiscovery, Audit | $57 ต่อผู้ใช้/เดือน |
Microsoft Purview Information Protection & Governance | DLP แบบสแตนด์อโลน + การจำแนกข้อมูล | ติดต่อ Microsoft เพื่อขอใบเสนอราคา |
หมายเหตุ: ราคาอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและข้อตกลงกับพาร์ตเนอร์ของ Microsoft
ตารางเปรียบเทียบ DLP
คุณสมบัติ | Microsoft Purview DLP | Symantec DLP | Forcepoint DLP | McAfee/Trellix DLP |
การผสานกับคลาวด์ | เชื่อมต่อโดยตรงกับ M365, Azure, Power Platform | ดี (Office 365, G Suite, AWS) | ดีเยี่ยม (Office 365, AWS, Salesforce) | จำกัด (ต้องใช้ Add-on เพิ่มเติม) |
การปกป้องอุปกรณ์ปลายทาง | มี | มี | มี | มี |
การจัดการนโยบายแบบศูนย์กลาง | ใช่ (ผ่าน Microsoft Purview Portal) | ใช่ (ผ่าน Symantec CloudSOC) | ใช่ | บางส่วน |
การจัดการ Insider Risk | ผสานกับ Insider Risk โดยตรง | ต้องใช้โซลูชันเสริม | ต้องใช้โซลูชันเสริม | ต้องใช้โซลูชันเสริม |
ความสามารถ AI & Machine Learning | ใช้โมเดล AI ขั้นสูงของ Microsoft | AI/ML ระดับกลาง | AI/ML ดี | AI/ML พื้นฐาน |
การรองรับ Compliance | GDPR, HIPAA, PCI-DSS, CCPA | GDPR, HIPAA, PCI-DSS | GDPR, HIPAA, PCI-DSS | GDPR, HIPAA, PCI-DSS |
ราคา | ปานกลาง (รวมใน M365 E5) | สูง (ต้องซื้อ License แยก) | สูง | สูง |
กรณีศึกษา: Microsoft Purview DLP ในการใช้งานจริง
- สถาบันการเงินลดความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหลลง 75%
ธนาคารข้ามชาติชั้นนำแห่งหนึ่งเผชิญกับความท้าทายในการปกป้องข้อมูลทางการเงินของลูกค้าทั้งในสาขาและพนักงานที่ทำงานระยะไกล ด้วยการใช้ Microsoft Purview DLP ในสภาพแวดล้อม Microsoft 365 เช่น Outlook, SharePoint และ Teams องค์กรสามารถ:
- ตรวจจับและป้องกันการแชร์ข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ทำให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลเป็นไปโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุผิดพลาดเกี่ยวกับข้อมูลลูกค้า
- ลดจำนวนเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลลงถึง 75% ภายในระยะเวลา 6 เดือน
- ลดเวลาการจัดทำรายงานสำหรับการตรวจสอบข้อกำหนดด้านกฎระเบียบลง 40%
บทสรุป: Microsoft Purview DLP ช่วยให้ธนาคารรักษาความปลอดภัยของข้อมูล พร้อมคงประสิทธิภาพการทำงานของทั้งพนักงานในสำนักงานและระยะไกลได้อย่างเต็มที่
- ผู้ให้บริการด้านสุขภาพผ่านมาตรฐาน HIPAA ด้วย Microsoft Purview DLP
เครือข่ายผู้ให้บริการด้านสุขภาพในภูมิภาคแห่งหนึ่งต้องการรักษาความปลอดภัยของเวชระเบียนและปฏิบัติตามข้อกำหนด HIPAA จึงได้ติดตั้ง Microsoft Purview DLP เพื่อตรวจสอบและปกป้อง ePHI (ข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการคุ้มครอง) บน Microsoft Teams และ OneDrive ได้ผลลัพธ์ดังนี้:
- ระบุและปกป้องข้อมูลผู้ป่วยมากกว่า 500,000 ระเบียน
- ใช้นโยบายการเข้ารหัสและ DLP โดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบการแชร์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนภายนอกองค์กร
- ลดความเสี่ยงจากการละเมิดกฎระเบียบและการฝ่าฝืน HIPAA ได้อย่างมีนัยสำคัญ
บทสรุป: Microsoft Purview DLP ช่วยปกป้องข้อมูลผู้ป่วยอย่างครอบคลุมและทำให้กระบวนการปฏิบัติตามข้อกำหนดเป็นเรื่องง่ายขึ้น
- ผู้ผลิตระดับโลกควบคุมทรัพย์สินทางปัญญาได้อย่างสมบูรณ์
บริษัทผู้ผลิตระดับ Fortune 500 ต้องการปกป้องแบบแปลนการออกแบบ ข้อมูลวิศวกรรม และข้อมูลการวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา หลังจากนำ Microsoft Purview DLP มาผสานกับ Microsoft 365 และ Azure บริษัทสามารถ:
- ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของทรัพย์สินทางปัญญาที่ละเอียดอ่อนภายในองค์กรได้อย่างเต็มรูปแบบ
- ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล IP โดยการบล็อกการถ่ายโอนไฟล์ที่ไม่ได้รับอนุญาตไปยัง USB หรือคลาวด์ภายนอก
- แจ้งเตือนทีมรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์เมื่อเกิดพฤติกรรมเสี่ยงหรือภัยคุกคามจากบุคคลภายในองค์กร
บทสรุป: Microsoft Purview DLP ช่วยให้บริษัทผู้ผลิตสามารถปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนการทำงานร่วมกันในองค์กรได้อย่างปลอดภัย
- บริษัทกฎหมายเพิ่มความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้า
สำนักงานกฎหมายขนาดใหญ่แห่งหนึ่งกังวลเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลลูกค้าที่เป็นความลับ ด้วยการใช้ Microsoft Purview DLP บริษัทสามารถ:
- บังคับใช้นโยบายการจัดการข้อมูลที่เข้มงวดในแอปพลิเคชัน Microsoft 365
- ใช้ระบบการจัดประเภทและติดฉลากไฟล์โดยอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจว่าเฉพาะผู้มีสิทธิ์เท่านั้นที่เข้าถึงเอกสารคดีที่สำคัญ
- ป้องกันการแชร์เอกสารที่เป็นความลับออกนอกองค์กร ยกเว้นกรณีที่ผ่านกระบวนการอนุมัติที่กำหนดไว้
บทสรุป: Microsoft Purview DLP ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าด้วยการรักษาความลับของข้อมูลทางกฎหมายอย่างเข้มงวด
ทำไมการจัดการความเสี่ยงของข้อมูลรั่วไหลจึงสำคัญ?
ในยุคที่ความเสี่ยงของข้อมูลรั่วไหลเพิ่มสูงขึ้นในทุกอุตสาหกรรม องค์กรจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์เชิงรุก DLP ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้องค์กรของคุณปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการคุ้มครองข้อมูล พร้อมทั้งรักษาความไว้วางใจของลูกค้าและทรัพย์สินทางปัญญา
ด้วยการจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ DLP จะกลายเป็นส่วนสำคัญของกรอบความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ช่วยให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยในโลกที่ภัยคุกคามเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Microsoft 365 Purview
สนใจผลิตภัณฑ์และบริการของ Microsoft หรือไม่ ส่งข้อความถึงเราที่นี่
สำรวจเครื่องมือดิจิทัลของเรา
หากคุณสนใจในการนำระบบจัดการความรู้มาใช้ในองค์กรของคุณ ติดต่อ SeedKM เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้ภายในองค์กร หรือสำรวจผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Jarviz สำหรับการบันทึกเวลาทำงานออนไลน์, OPTIMISTIC สำหรับการจัดการบุคลากร HRM-Payroll, Veracity สำหรับการเซ็นเอกสารดิจิทัล, และ CloudAccount สำหรับการบัญชีออนไลน์
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้และเครื่องมือการจัดการอื่นๆ ได้ที่ Fusionsol Blog, IP Phone Blog, Chat Framework Blog, และ OpenAI Blog.
Chatbot สำหรับ WebApp สร้างความผูกพันกับลูกค้าด้วยระบบอัตโนมัติ – Chatframework AI
ถ้าอยากติดตามข่าวเทคโนโลยีและข่าว AI ที่กำลังเป็นกระแสทุกวัน ลองเข้าไปดูที่ เว็บไซต์นี้ มีอัปเดตใหม่ๆ ให้ตามทุกวันเลย!
Related Articles : Data Loss Risks and How to prevent it
Frequently Asked Questions (FAQ)
DLP คืออะไร และทำไมองค์กรต้องใช้?
DLP (Data Loss Prevention) คือโซลูชันหรือกลยุทธ์ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหลออกจากองค์กร ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ องค์กรควรใช้ DLP เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า ข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา และปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมาย เช่น GDPR หรือ HIPAA
Microsoft Purview DLP แตกต่างจาก DLP ทั่วไปอย่างไร?
Microsoft Purview DLP ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันใน Microsoft 365 ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น Outlook, Teams, SharePoint และ OneDrive มีระบบ AI ที่ช่วยตรวจจับข้อมูลสำคัญ และมีศูนย์กลางจัดการนโยบาย DLP เดียว ทำให้การควบคุมข้อมูลในองค์กรง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Microsoft Purview DLP รองรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมายอะไรบ้าง?
Microsoft Purview DLP ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น GDPR, HIPAA, PCI-DSS, และ CCPA พร้อมทั้งมีระบบตรวจสอบและรายงานเพื่อรองรับการตรวจสอบจากภายนอก
สามารถใช้งาน Microsoft Purview DLP บนอุปกรณ์ปลายทาง (Endpoint) ได้หรือไม่?
ได้ Microsoft Purview DLP รองรับการควบคุมข้อมูลบนอุปกรณ์ปลายทาง เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อป เพื่อป้องกันการถ่ายโอนข้อมูลไปยัง USB หรืออุปกรณ์ภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต้องมีใบอนุญาต (License) ประเภทใดเพื่อใช้งาน Microsoft Purview DLP?
Microsoft Purview DLP รวมอยู่ในหลายแพ็คเกจของ Microsoft 365 เช่น Microsoft 365 E3 (DLP เบื้องต้น) และ Microsoft 365 E5 (DLP ขั้นสูง พร้อม AI และ Insider Risk Management) รวมถึงมี Add-on สำหรับ E5 Compliance ด้วย