เปรียบเทียบ Microsoft Authenticator and Google Authenticator อย่างละเอียด

ในโลกยุคดิจิทัลปัจจุบัน การใช้การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (Two-Factor Authentication หรือ 2FA) กลายเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่เพียงแค่ทางเลือกอีกต่อไป โดยมีแอปยอดนิยม 2 ตัวคือ Microsoft Authenticator and Google Authenticator ซึ่งแม้จะมีฟีเจอร์หลักคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในด้านฟีเจอร์เพิ่มเติม ความสะดวกในการใช้งาน และการผสานรวมกับระบบต่าง ๆ
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือดูแลระบบในองค์กร การเข้าใจความแตกต่างของสองแอปนี้จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมได้ดีที่สุด
ฟีเจอร์หลักของ Microsoft Authenticator and Google Authenticator
ฟีเจอร์ | Microsoft Authenticator | Google Authenticator |
รองรับแพลตฟอร์ม | Android, iOS, Apple Watch | Android, iOS |
การแจ้งเตือนแบบ Push | ✅ มี | ❌ ไม่มี |
ล็อกแอปด้วยไบโอเมตริกซ์ | ✅ มี | ✅ มี |
สำรองข้อมูลบนคลาวด์ | ✅ iCloud/OneDrive | ✅ Google Account |
การกู้คืนบัญชี | ✅ ผ่าน Microsoft ID ได้ง่าย | ✅ ผูกกับ Google Account |
OTP แบบ Time-based (TOTP) | ✅ รองรับ | ✅ รองรับ |
ล็อกอินแบบไม่ใช้รหัสผ่าน | ✅ สำหรับบัญชี Microsoft | ❌ ไม่รองรับ |
สแกน QR Code | ✅ มี | ✅ มี |
ซิงก์ข้ามอุปกรณ์ | ✅ มี | ✅ มี (อัปเดตปี 2023) |
โอเพนซอร์สหรือไม่ | ❌ ไม่เปิดเผยโค้ด | ✅ โอเพนซอร์ส |
ข้อดีของการผสานเข้ากับระบบและความปลอดภัย
Microsoft Authenticator: สำหรับใครที่ใช้งาน Microsoft เป็นหลัก
- เหมาะกับผู้ใช้ที่อยู่ในระบบ Microsoft 365
- รองรับการล็อกอินแบบไม่ใช้รหัสผ่าน
- ใช้งานร่วมกับ Azure AD และ Conditional Access ได้ดี
- แจ้งเตือนแบบ Push ช่วยลดความยุ่งยากในการยืนยันตัวตน
Google Authenticator: ตัวเลือกเบาแต่ทรงพลังสำหรับทุกคน
- เหมาะกับผู้ใช้ Google Account และผู้ที่ต้องการแอป 2FA ที่ใช้งานง่าย
- ในปี 2023 ได้อัปเดตให้มีการสำรองข้อมูลและซิงก์อุปกรณ์
- เป็นแอปโอเพนซอร์ส เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจด้านความเป็นส่วนตัว
ข้อดีและข้อจำกัด
แอป | ข้อดี | ข้อจำกัด |
Microsoft Authenticator | – ผสานกับระบบองค์กร (Azure, M365) ได้ดี | – ไม่เปิดเผยโค้ด (Closed-source) |
Google Authenticator | – น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย | – ไม่มีการแจ้งเตือนแบบ Push |
ใช้งานแบบไหน เหมาะกับใคร?
ประเภทผู้ใช้ | แอปที่แนะนำ | เหตุผล |
ผู้ใช้ Microsoft 365 | Microsoft Authenticator | ใช้งานร่วมกับ Azure และระบบ Microsoft ได้ดีที่สุด |
ผู้ใช้ Google Account | Google Authenticator | ผสานการทำงานได้ดี ใช้งานง่าย |
ผู้ใช้ที่ใส่ใจความเป็นส่วนตัว | Google Authenticator | โอเพนซอร์ส ตรวจสอบได้ |
ผู้ดูแลระบบองค์กร | Microsoft Authenticator | ตั้งนโยบาย MFA และจัดการอุปกรณ์ได้ |
ผู้ใช้ทั่วไป | แล้วแต่แพลตฟอร์มที่ใช้งาน | ทั้งสองแอปรองรับ backup และ sync แล้ว |
บทสรุป
แม้ว่า Microsoft and Google Authenticator จะให้ความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมสำหรับ 2FA แต่การเลือกแอปที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับระบบนิเวศดิจิทัลที่คุณใช้งาน หากคุณอยู่ในระบบของ Microsoft เป็นหลัก แอปของ Microsoft จะให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด แต่หากคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไปหรือใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว Google Authenticator ก็เป็นตัวเลือกที่เบาแต่ทรงพลัง
การเลือกแอป 2FA ที่เหมาะสมอาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างการเข้าสู่ระบบที่ง่ายและปลอดภัย หรือความยุ่งยากในการกู้คืนบัญชี คิดถึงสิ่งที่คุณให้ความสำคัญ—ความสะดวก ความเข้ากันได้ หรือความโปร่งใส—แล้วคุณจะเลือกได้ถูกต้อง
สนใจผลิตภัณฑ์และบริการของ Microsoft หรือไม่ ส่งข้อความถึงเราที่นี่
สำรวจเครื่องมือดิจิทัลของเรา
หากคุณสนใจในการนำระบบจัดการความรู้มาใช้ในองค์กรของคุณ ติดต่อ SeedKM เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้ภายในองค์กร หรือสำรวจผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Jarviz สำหรับการบันทึกเวลาทำงานออนไลน์, OPTIMISTIC สำหรับการจัดการบุคลากร HRM-Payroll, Veracity สำหรับการเซ็นเอกสารดิจิทัล, และ CloudAccount สำหรับการบัญชีออนไลน์
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้และเครื่องมือการจัดการอื่นๆ ได้ที่ Fusionsol Blog, IP Phone Blog, Chat Framework Blog, และ OpenAI Blog.
Introducing new Claude 4 models: Claude Opus 4 and Claude Sonnet 4
ถ้าอยากติดตามข่าวเทคโนโลยีและข่าว AI ที่กำลังเป็นกระแสทุกวัน ลองเข้าไปดูที่ เว็บไซต์นี้ มีอัปเดตใหม่ๆ ให้ตามทุกวันเลย!
Related Articles
Frequently Asked Questions (FAQ)
2FA คืออะไร?
2FA (Two-Factor Authentication) คือกระบวนการเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าสู่ระบบ โดยต้องใช้การยืนยันตัวตน 2 รูปแบบ เช่น รหัสผ่าน + รหัส OTP จากแอปหรือ SMS
ทำไมควรเปิดใช้ 2FA?
เพราะช่วยป้องกันบัญชีจากการถูกแฮก แม้ว่าผู้ไม่หวังดีจะรู้รหัสผ่าน แต่ก็ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้หากไม่มีรหัสผ่านขั้นที่สอง
2FA มีกี่ประเภท?
ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
- การส่งรหัส OTP ทาง SMS หรืออีเมล
- การใช้แอปยืนยันตัวตน เช่น Microsoft Authenticator, Google Authenticator
- การใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น YubiKey
- การสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้า
2FA ปลอดภัยแค่ไหน?
ปลอดภัยกว่าการใช้รหัสผ่านเพียงอย่างเดียวมาก ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกเจาะระบบหรือฟิชชิ่ง แม้ว่าแต่ละวิธีมีระดับความปลอดภัยต่างกัน
จะเริ่มใช้ 2FA ได้อย่างไร?
สามารถเปิดใช้งานได้จากหน้าการตั้งค่าความปลอดภัยของบริการนั้น ๆ เช่น Microsoft, Google, Facebook หรือแอปธนาคาร โดยเลือกเปิด “Two-Factor Authentication” แล้วทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ