Microsoft Fabric Data Agents: Copilot วิเคราะห์ Big Data อย่างชาญฉลาด

Microsoft Fabric กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่องค์กรรวมข้อมูลและ AI เข้าไว้ด้วยกันอย่างรวดเร็ว และหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ Fabric Data Agent ซึ่งเป็นความสามารถใหม่ที่ช่วยให้ Microsoft Copilot สามารถเข้าถึง วิเคราะห์ และเข้าใจข้อมูลขององค์กรจากหลายแหล่ง — รวมถึง lakehouse, data warehouse และฐานข้อมูล — ได้อย่างปลอดภัยภายในสภาพแวดล้อมเดียวกัน
Fabric Data Agent คืออะไร?
Fabric Data Agent คือเฟรมเวิร์กเชื่อมต่อข้อมูลภายใน Microsoft Fabric ที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่าง Copilot กับข้อมูลของคุณ ช่วยให้ Copilot สามารถใช้ภาษาธรรมชาติในการตั้งคำถาม วิเคราะห์ข้อมูล และดำเนินการบนชุดข้อมูลขององค์กรได้ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
กล่าวง่าย ๆ คือ ช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปและนักวิเคราะห์สามารถโต้ตอบกับข้อมูลผ่าน Copilot ได้ทันทีอย่างมีบริบทและปลอดภัย
Fabric Data Agent ทำงานอย่างไร
Data Agent ใช้สถาปัตยกรรมความปลอดภัยของ Microsoft และความสามารถในการเข้าใจ metadata เพื่อเผยให้เห็นโครงสร้างของข้อมูลให้กับ Copilot โดยสามารถแปลงคำถามเป็นภาษาธรรมชาติไปสู่คำสั่งที่เข้าใจข้อมูลได้อย่างแม่นยำ
ฟังก์ชันหลัก:
- ค้นหาและตีความ schema ของข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ
- จับคู่คำถามกับตารางและตัวชี้วัดที่เหมาะสม
- ควบคุมการเข้าถึงตามบทบาท (RBAC)
- Query ข้ามแหล่งข้อมูลหลายแบบ เช่น Lakehouse, Warehouse, SQL
แหล่งข้อมูลที่รองรับ
ประเภทข้อมูล | ตัวอย่างแหล่งข้อมูล |
Lakehouse | Delta Tables, ไฟล์ Parquet ใน OneLake |
Data Warehouse | Fabric Warehouse (SQL-based) |
Traditional DBs | Azure SQL DB, Synapse, Dataverse |
Real-time Data | ข้อมูลแบบสตรีมผ่าน Event Streams |
ด้วย Data Agent Copilot สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ได้แบบเรียลไทม์หรือแบบตามคำสั่ง
กรณีการใช้งานตัวอย่าง
- วิเคราะห์ยอดขาย
ถาม Copilot: “แสดงสินค้าที่ขายดีที่สุดของไตรมาสที่ผ่านมาในทุกภูมิภาค”
→ ระบบจะดึงข้อมูลจาก sales warehouse และตารางลูกค้าใน lakehouse มาวิเคราะห์ร่วมกัน - ติดตามระบบ IT
ถาม Copilot: “มีเหตุการณ์ผิดปกติใน log ของเซิร์ฟเวอร์เมื่อวานนี้ไหม?”
→ Copilot จะอ่าน log ใน OneLake และใช้ Power BI เพื่อแสดงข้อมูล outlier - รายงานการเงิน
ถาม Copilot: “สรุปรายจ่ายรายเดือนเทียบกับงบประมาณของทุกแผนก”
→ ดึงข้อมูลจาก data warehouse แบบ real-time และแสดงผลด้วย semantic model
ปลอดภัยตามมาตรฐานองค์กร
Data Agent ออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยระดับองค์กร:
- RBAC (Role-based Access Control): เฉพาะผู้มีสิทธิ์เท่านั้นที่สามารถ query ข้อมูล
- ระบบดูแลข้อมูล: ผสานการทำงานกับ Microsoft Purview เพื่อให้มั่นใจว่าปฏิบัติตามข้อกำหนด
- Audit Logs: ทุกการโต้ตอบกับ Copilot จะถูกบันทึกและตรวจสอบได้
วิธีตั้งค่า Fabric Data Agent
ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเริ่มใช้งาน:
- เข้าสู่ Microsoft Fabric Admin Portal
- ไปที่เมนู “Data Agent” ภายใต้การตั้งค่า Copilot
- เชื่อมต่อแหล่งข้อมูล เช่น OneLake, Warehouse, Azure SQL
- กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงให้กับผู้ใช้งาน
- เปิดใช้งาน Agent และทดสอบด้วยคำถามจากภาษาธรรมชาติ
- ผสานการทำงานกับ Copilot ผ่าน Power BI, Teams หรือ Fabric Studio
เมื่อเปิดใช้งาน Copilot จะมีความเข้าใจในข้อมูลของคุณมากขึ้น และตอบคำถามได้แม่นยำยิ่งขึ้น
เหตุผลที่ Fabric Data Agent สำคัญ
คุณสมบัติ | ประโยชน์ |
Unified Data Access | วิเคราะห์ข้อมูลจาก lakehouse, warehouse, DB ได้รวมศูนย์ |
Natural Language Queries | ใช้คำถามจากภาษาพูดหรือภาษาท้องถิ่นได้ |
Real-Time Analysis | ได้ผลลัพธ์ทันทีจากข้อมูลสดหรือแบบ streaming |
Enterprise-Grade Security | RBAC เต็มรูปแบบ มี log และ data lineage |
Integrated AI Copilot | ผสาน LLM เข้ากับข้อมูลเชิงโครงสร้าง |
สรุป
Fabric Data Agent คือก้าวสำคัญสำหรับองค์กรที่ต้องการปลดล็อกพลังของ Big Data ผ่าน AI แบบภาษาธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งนักวิเคราะห์หรือคำสั่ง query ซับซ้อน ผู้ใช้งานสามารถสอบถามข้อมูลกับ Copilot ได้โดยตรง
ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง dashboard, ตัดสินใจเชิงธุรกิจ หรือค้นหารูปแบบต่าง ๆ — Data Agent จะช่วยให้ Copilot ทำงานได้อย่างชาญฉลาด แม่นยำ และปลอดภัย
สนใจผลิตภัณฑ์และบริการของ Microsoft หรือไม่ ส่งข้อความถึงเราที่นี่
สำรวจเครื่องมือดิจิทัลของเรา
หากคุณสนใจในการนำระบบจัดการความรู้มาใช้ในองค์กรของคุณ ติดต่อ SeedKM เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้ภายในองค์กร หรือสำรวจผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Jarviz สำหรับการบันทึกเวลาทำงานออนไลน์, OPTIMISTIC สำหรับการจัดการบุคลากร HRM-Payroll, Veracity สำหรับการเซ็นเอกสารดิจิทัล, และ CloudAccount สำหรับการบัญชีออนไลน์
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้และเครื่องมือการจัดการอื่นๆ ได้ที่ Fusionsol Blog, IP Phone Blog, Chat Framework Blog, และ OpenAI Blog.
New Gemini Tools For Educators: Empowering Teaching with AI
ถ้าอยากติดตามข่าวเทคโนโลยีและข่าว AI ที่กำลังเป็นกระแสทุกวัน ลองเข้าไปดูที่ เว็บไซต์นี้ มีอัปเดตใหม่ๆ ให้ตามทุกวันเลย!
Fusionsol Blog in Vietnamese
- Làm việc nhóm hiệu quả với Microsoft 365
- Giải pháp Microsoft 365 doanh nghiệp: Nền tảng cộng tác linh hoạt
Related Articles
Frequently Asked Questions (FAQ)
Microsoft Fabric คืออะไร?
Microsoft Fabric คือแพลตฟอร์มข้อมูลแบบครบวงจร (Unified AI-powered Data Platform) จาก Microsoft ซึ่งรวมการจัดการข้อมูล การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ การสร้างรายงาน และการประมวลผลเรียลไทม์ไว้ในระบบเดียว ช่วยลดความซับซ้อนของการใช้งานหลายระบบร่วมกัน
Fabric ต่างจาก Power BI อย่างไร?
- Fabric มุ่งเน้นการจัดการข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้น (ETL, data engineering, data warehouse, real-time analytics)
- Power BI ใช้สำหรับสร้างรายงานและแดชบอร์ดจากข้อมูลที่เตรียมไว้แล้ว
Fabric จึงเหมาะกับองค์กรที่ต้องการระบบข้อมูลครบวงจร ส่วน Power BI เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการการวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูลแบบ self-service
Microsoft Fabric จ่ายค่าใช้จ่ายอย่างไร?
Fabric ใช้โมเดลคิดค่าเป็น Capacity Unit (CU) โดยเริ่มต้นที่ F2 (~2 CU) ซึ่งราว $262/เดือน (แบบ pay‑as‑you‑go) และมีขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการ มีทั้งแบบจ่ายตามจริง และแบบจองไว้ล่วงหน้าเพื่อประหยัดคุ้มค่า
Fabric เหมาะกับองค์กรขนาดไหน?
เหมาะกับองค์กรที่ทำงานกับข้อมูลจำนวนมาก เช่น ทีม data engineering, data science และทีม BI ที่ต้องการ:
- ระบบ data lake กลาง (OneLake)
- การวิเคราะห์เรียลไทม์
- การใช้งาน AI/ML และการทำงานร่วมกันระหว่างทีม
ทั้งนี้ สำหรับองค์กรเล็กหรือผู้เริ่มต้น Power BI อาจเพียงพอ แต่สำหรับองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ Fabric จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
ควรเรียนรู้ Fabric หรือ Power BI ก่อนดี?
ถ้าคุณต้องการแค่สร้างรายงานและแดชบอร์ด Power BI เริ่มง่ายกว่า แต่ถ้าคุณสนใจจัดการข้อมูลแบบ end‑to‑end ตั้งแต่ ingestion, processing, real‑time analytics, AI integration Fabric คือเส้นทางที่ธุรกิจองค์กรใหญ่กำลังมุ่งสู่ในภาพรวม