Data Driven
Data Driven คือ การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เป็นแนวคิดที่มีมาซักระยะนึงแล้ว โดยจากที่เรามีแนวคิดเรื่องการเก็บข้อมูล เพื่อเอามาวิเคราะห์ทางเลือกในการดำเนินธุรกิจ ตัวอย่างเช่น
- การนำเสนอสินค้า
 - การหาทำเลเลือกที่ตั้งร้านค้า
 - การออก Promotion ที่โดนใจ
 
ประโยชน์จาก Data Driven
รูปแบบที่มีการใช้ประโยชน์อย่างชัดเจน ก็คือ ในขบวนการ Marketing ที่ปัจจุบันสามารถเก็บข้อมูลจากเครื่องมือต่างๆ ได้อย่างมากมาย
- Retargeting Ads บน Facebook และ Google : เพื่อช่วยกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้ามายัง Facebook Page หรือเว็บไซต์ของคุณเพื่อดูสินค้าและบริการ แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อให้ได้เห็นโฆษณาของสินค้านั้นๆ อีกครั้ง
 - คาดการณ์หรือทำนายความต้องการในการซื้อสินค้าของลูกค้า : ตัวอย่างเช่น หากคุณขายอุปกรณ์กีฬา แล้วได้เก็บข้อมูลสถิติของลูกค้าหลายๆ คนไว้ก่อนหน้านี้ จนสามารถคาดการณ์ได้ว่า หากลูกค้าซื้อรองเท้าวิ่งไปแล้ว ในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้ลูกค้าคนนี้อาจจะมีความต้องการไอเท็มอื่นๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์การวิ่ง เช่น กระเป๋าคาดเอา, ผ้าคาดศีรษะหรือแม้กระทั่งเสื้อหรือกางเกงกีฬา คุณก็จะสามารถส่งสินค้าเหล่านี้ไปแนะนำให้ลูกค้าที่เพิ่งซื้อรองเท้าวิ่งไป เพื่อไม่ให้ลูกค้าหลุดไปซื้อที่อื่น
 - หาลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มให้ธุรกิจ : สำหรับนักการตลาดที่ทำโฆษณาออนไลน์มากระยะหนึ่งแล้ว น่าจะพอได้ยินชื่อเครื่องมือหนึ่งของ Facebook อย่าง Custom Audience และ Lookalike กันมาบ้าง เพราะสองสิ่งนี้คือเครื่องมือที่จะช่วยกรองและค้นหาลูกค้าของคุณบน Facebook อีกทั้งยังสามารถหากลุ่มคนใหม่ๆ ที่มีพฤติกรรมความชอบ ความสนใจที่มีความเหมือนคล้ายกับกลุ่มลูกตัวจริงของคุณได้อีกด้วย
 
ในวงการอุสาหกรรม มีการนำแนวคิดนี้ไปใช้ประโยชน์ในหลายแนวทาง
- เพื่อจัดลำดับการผลิตได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น ปรับปรุง Line การผลิต ก็สามารถใช้ Model เพื่อวิเคราะห์ได้ว่า ตรงไหนคือ Fat หรือส่วนที่ทำให้เกิดผลเสียต่อระบบได้อีกด้วย
 - การตัดสินใจหน้างานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การติด IoT เพื่อวัดค่าปริมาณสารคงเหลือในคลัง เพื่อตัดสินใจสั่งซื้อสารจาก Supplier หรือ การติดตั้ง IoT เพื่อวิธีการหลอมแบบภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่คงที่
 - การพยากรณ์รอบการผลิตที่ต่ำลง หรือ Preventive Accident ทำให้จะมีแผนการซ่อมบำรุงเป็นค่ามาตรฐานเป็นค่าที่ทางบริษัทเครื่องมือได้กำหนดเอาไว้ ในความเป็นจริง อายุของเครื่องมือ สภาพแวดล้อม และอัตราการผลิต ต่างส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ หรือ อัตราการผลิตที่ลดต่ำลง
 
เครื่องมือ Power Platform
แนวทางเรื่องนี้ปัจจุบันเราสามารถสร้างเป็นการทำงานแบบอัตโนมัติได้ โดยอาศัยเครื่องมือ ของ Microsoft 365 Power Platform
ชุดของ Power Platform นี้ ไม่ได้เป็นคำเรียกทั่วไป แต่เป็น Microsoft ที่เรียกชุดเครื่องมือของเค้าเอง โดยชุดนี้ประกอบไปด้วย
- Power Apps
 - Power Automate
 - Power BI
 - Power Virtual Agents
 - Power Page
 

ตัวอย่างการใช้ Data Driven

เราได้ยินกันมาซักพักแล้วเรื่องการทำ Data มาเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ
การใช้ Data เป็นตัวตัดสินใจในการทำงานเราพูดถึง Data กันมาเป็นพักใหญ่ จนตอนนี้ผมรู้สึกว่า data ในการทำงานเราพร้อมแล้วในระดับที่น่าจะเอามาช่วยในการทำงาน
ใน Diagram ผมเลยเสนอ idea เรื่องการออกจดหมายเตือน โดยใช้ Data ที่เก็บมาจากการเข้างานเป็นเครื่องมือซึ่งผมประกอบเครื่องมือออกมาตามในภาพ ผลที่ได้คือ เมื่อมีข้อมูลเวลา Check in จากพนักงานระบบจะเอาไปสรุปผลที่ Power BI
เมื่อมีข้อมูลตรงตามเงื่อนไข เช่น มาสายเกิน 3 ครั้งให้ออกใบเตือน ก็ให้ Power Automate เป็นเครื่องมือในการส่ง Mail แจ้งไปหาพนักงาน เมื่อพนักงานได้รับ Mail จะมีปุ่มให้ กดรับทราบ ![]()
มื่อพนักงานกดรับทราบ ระบบจะ update ใน ฐานข้อมูลว่าพนักงานรรับทราบการแจ้งเตือนแล้ว ![]()
จะเห็นว่าในขั้นตอนทั้งหมดไม่มีคนอยู่เลย เป็นการทำงานอัตโนมัติทั้งหมด
Power BI เครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ข้อมูล
หลังจากมีการรวมข้อมูลทั้งหมดมาได้แล้ว ก็ถึงขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูล เครื่องมือในการวิเคราะห์ที่ใช้งานง่าย และฟรี ที่ขอแนะนำคือ Power BI เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว ก็นำเข้าระบบ Power BI เพื่อวิเคราะห์ แล้วนำผลมาสั่งงานต่อในระบบ Power Automate สำหรับตัวอย่างการใช้ Power BI เช่น
- การหาค่าความผิดปกติ เช่น การซื้อแพงเกินค่ามาตราฐาน
 - การหาค่าที่เหมาะสมสำหรับการเสนอราคาซื้อ
 - การหากลุ่มลูกค้าที่เหมาะสำหรับบริษัท
 
Reference
 


