AI Agent คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ?

AI Agent คืออะไร?
เอเจนต์ AI คือระบบซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อปฏิบัติงานหรือตัดสินใจโดยอัตโนมัติ โดยการรับรู้สภาพแวดล้อม ประมวลผลข้อมูล และดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเฉพาะแทนมนุษย์ แนวคิดนี้มาจากสาขาปัญญาประดิษฐ์ที่กว้างขึ้น และมักใช้ในบริบทต่างๆ เช่น หุ่นยนต์ ผู้ช่วยเสมือน และระบบการตัดสินใจ
โครงสร้างหลักของระบบอัจฉริยะนี้มี 3 องค์ประกอบ:
- การรับรู้ (Perception) – เก็บข้อมูลจากสิ่งแวดล้อม
- การประมวลผล (Reasoning/Processing) – วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจ
- การกระทำ (Action) – ดำเนินการตามการตัดสินใจนั้น
ตัวอย่างของ AI Agents
- ChatGPT พร้อมเครื่องมือ (เช่น การท่องเว็บ, การเขียนโค้ด) = AI Agent
- ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอเนกประสงค์ที่สามารถเข้าถึงเครื่องมือต่าง ๆ ภายนอกได้ โดยใช้การท่องเว็บเพื่อนำเข้าข้อมูลแบบเรียลไทม์ และใช้ code interpreter เพื่อวิเคราะห์หรือสร้างสคริปต์ กราฟ และข้อมูลเชิงลึก
- ตัวอย่างการใช้งาน: ผู้ช่วยด้านการวิจัย นักวิเคราะห์ข้อมูล หรือผู้ช่วยเขียนโปรแกรมที่สามารถให้เหตุผลและดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้ได้
- บอทบริการลูกค้าที่จัดการ Ticket
- ตัวแทนเสมือนสำหรับตอบคำถามของลูกค้าและจัดการเวิร์กโฟลว์การสนับสนุน โดยเชื่อมต่อกับระบบ ticket เช่น Zendesk หรือ Freshdesk ใช้การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) เพื่อเข้าใจปัญหา และดำเนินการมอบหมาย, ส่งต่อ หรือแก้ไข ticket โดยอัตโนมัติ
- ตัวอย่างการใช้งาน: ให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์มากนัก
- หุ่นยนต์อัจฉริยะที่สามารถเคลื่อนที่ในพื้นที่จริง
- ตัวแทน AI ในรูปแบบกายภาพ (ฝังอยู่ในหุ่นยนต์หรือโดรน) ใช้เซนเซอร์ (เช่น LiDAR, กล้อง) เพื่อรับรู้สภาพแวดล้อม วางแผนการเคลื่อนไหวโดยใช้โมเดล AI (เช่น SLAM, path planning) และสามารถตอบสนองต่อสิ่งกีดขวาง พร้อมทั้งเรียนรู้เส้นทางที่ดีที่สุด
- ตัวอย่างการใช้งาน: ระบบอัตโนมัติในคลังสินค้า โดรนส่งของ หรือยานยนต์ไร้คนขับ
- AI ตัวแทนฝ่ายขายที่ส่งอีเมลส่วนบุคคลและติดตามผล
- ผู้ช่วยฝ่ายขายเสมือนที่ช่วยดูแลและเปลี่ยนลูกค้าเป้าหมายให้เป็นลูกค้าจริง โดยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าและข้อมูล CRM สร้างอีเมลที่มีบริบทเฉพาะบุคคล และจัดตารางการติดตามผล หรือทดสอบเนื้อหาแบบ A/B
- ตัวอย่างการใช้งาน: ขยายการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายแบบส่วนบุคคลสำหรับทีมการตลาดหรือฝ่ายขายอย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของตัวแทน AI ในธุรกิจ
- ลดต้นทุน: ระบบสามารถทำงานอัตโนมัติแทนมนุษย์ในกระบวนการที่ซ้ำซ้อน ลดภาระงานและจำนวนพนักงาน
- ความสม่ำเสมอ: ทำงานอย่างแม่นยำและไม่มีความคลาดเคลื่อน
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: เปิดโอกาสให้พนักงานมุ่งเน้นไปที่งานเชิงกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์
- ตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น: วิเคราะห์และดำเนินการตามข้อมูลแบบเรียลไทม์
- ขยายตัวได้ง่าย: ใช้งานได้ทั่วทั้งแผนก หลายสาขา หรือกลุ่มลูกค้าหลายประเภท
ตัวอย่าง: ธุรกิจที่ใช้ระบบอัตโนมัติในการปฐมนิเทศพนักงานใหม่สามารถลดภาระงานของ HR ลงได้มากกว่า 60%
สร้างระบบด้วย Microsoft Copilot Studio
วิธีสร้าง AI Agent แรกของคุณใน Microsoft Copilot Studio
ต่อไปนี้คือขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับเริ่มต้นสร้าง Copilot ของคุณเอง:
- ขั้นตอนที่ 1: เข้าถึง Microsoft Copilot Studio
- ไปที่: Customize Copilot and Create Agents | Microsoft Copilot Studio
- ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Microsoft 365 แบบ Business หรือ Enterprise
- ขั้นตอนที่ 2: สร้าง Agent ใหม่
- ขั้นตอนที่ 3: กำหนดหัวข้อ (Topics) และคำกระตุ้นการทำงาน (Trigger Phrases)
- ขั้นตอนที่ 4: ออกแบบรูปแบบการสนทนา (Conversation Flow)
- ขั้นตอนที่ 5: เชื่อมต่อกับ Power Automate
- ขั้นตอนที่ 6: เปิดใช้งานการตอบกลับด้วย Generative AI (ไม่บังคับ)
- ขั้นตอนที่ 7: แสดงตัวอย่าง ทดสอบ และเผยแพร่ (Publish)
หากคุณสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ 🔗 Microsoft Copilot Studio โปรดติดต่อ Fusion Solution
บทสรุป
แนวคิดของระบบอัจฉริยะกำลังกลายเป็นรากฐานของการสร้างระบบ AI ยุคใหม่ ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพงานส่วนบุคคล ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานระดับองค์กร ระบบเหล่านี้ทำให้มนุษย์สามารถโต้ตอบกับเครื่องจักรได้อย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า ระบบอัจฉริยะเหล่านี้จะพัฒนาไปอีกขั้น จากผู้ช่วยกลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่สามารถสนับสนุนการตัดสินใจและร่วมมือในงานสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง
สนใจผลิตภัณฑ์และบริการของ Microsoft หรือไม่ ส่งข้อความถึงเราที่นี่
สำรวจเครื่องมือดิจิทัลของเรา
หากคุณสนใจในการนำระบบจัดการความรู้มาใช้ในองค์กรของคุณ ติดต่อ SeedKM เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้ภายในองค์กร หรือสำรวจผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Jarviz สำหรับการบันทึกเวลาทำงานออนไลน์, OPTIMISTIC สำหรับการจัดการบุคลากร HRM-Payroll, Veracity สำหรับการเซ็นเอกสารดิจิทัล, และ CloudAccount สำหรับการบัญชีออนไลน์
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้และเครื่องมือการจัดการอื่นๆ ได้ที่ Fusionsol Blog, IP Phone Blog, Chat Framework Blog, และ OpenAI Blog.
Google NotebookLM: ผู้ช่วยด้านการวิจัยและการจดบันทึกที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ถ้าอยากติดตามข่าวเทคโนโลยีและข่าว AI ที่กำลังเป็นกระแสทุกวัน ลองเข้าไปดูที่ เว็บไซต์นี้ มีอัปเดตใหม่ๆ ให้ตามทุกวันเลย!
Related Articles
Frequently Asked Questions (FAQ)
Copilot Studio คืออะไร?
Copilot Studio เป็นเครื่องมือแบบ Low-code / No-code จาก Microsoft สำหรับสร้างและปรับแต่ง AI agents หรือ chatbot อัจฉริยะ ที่สามารถโต้ตอบและทำงานต่าง ๆ ได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเยอะ ใช้ได้ผ่านเว็บและใน Teams
สามารถทำอะไรได้บ้างกับ Copilot Studio?
- สร้าง AI agent ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้
- เชื่อมต่อกับข้อมูลในองค์กร เช่น SharePoint, OneDrive, APIs ผ่าน connectors
- ออกแบบ Topic และ Conversation flow
- สร้าง flows อัตโนมัติโดยผสานกับ Power Platform
- เผยแพร่ agent ข้ามช่องทาง เช่น Teams, เว็บไซต์, Facebook
มีฟีเจอร์ด้าน RPA ให้ใช้หรือไม่?
ล่าสุด Copilot Studio เพิ่มฟีเจอร์ “computer use” ที่ให้ AI agent คลิกเมนูกรอกฟอร์ม ใช้งานบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเสมือนไมโครซอฟต์เอง รองรับงานเช่น ป้อนข้อมูล สืบค้นตลาด หรือประมวลผลบิล
ค่าสมาชิกและไลเซนส์เป็นอย่างไร?
- มีไลเซนส์สำหรับผู้สร้าง (Maker) และแบบรายองค์กร (tenant)
- เริ่มต้นใช้งานฟรี Maker SKU
- ก่อนเผยแพร่ agent จำเป็นต้องใช้ไลเซนส์ระดับองค์กร (เช่น 25,000 ข้อความ / เดือน)
- ต้องใช้ Power Platform และ Azure ทั้งนี้อาจต้องใช้ไลเซนส์พรีเมียมตามการเชื่อมต่อกับ Dataverse/API
ปลอดภัยและเชื่อถือได้หรือไม่?
Copilot Studio มาพร้อมระบบควบคุมการเข้าถึง (access/user controls) และการวิเคราะห์ usage/logging แบบครบวงจร นอกจากนี้องค์กรสามารถเลือกเชื่อมต่อเฉพาะระบบภายใน และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานองค์กร