ซื้อ Cloud ที่ดีที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ

ตลาดคลาวด์คอมพิวติ้งกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และธุรกิจกำลังมองหาวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเลือกใช้บริการคลาวด์ที่หลากหลาย เนื่องจากบริษัทต่างๆ ใช้คลาวด์สำหรับการเก็บข้อมูล การประมวลผล และการปรับใช้แอปพลิเคชัน การเลือก กลยุทธ์การ ซื้อ Cloud ที่ดีที่สุด จะกลายเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในปี 2025 ซึ่งกลยุทธ์การซื้อคลาวด์จะต้องปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มใหม่ๆ การพัฒนาเทคโนโลยี และความต้องการที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจ
กลยุทธ์การ ซื้อ Cloud ที่ดีที่สุด ในปี 2025
เข้าใจความต้องการของธุรกิจและการเติบโตในอนาคต
หนึ่งในขั้นตอนแรกในการสร้างกลยุทธ์การซื้อคลาวด์ที่แข็งแกร่งคือการประเมินความต้องการของธุรกิจและแผนการเติบโตในอนาคตอย่างถี่ถ้วน การนำคลาวด์มาใช้งานไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสมกับทุกธุรกิจ และการเลือกผู้ให้บริการหรือโมเดลที่ผิดอาจนำไปสู่การสูญเสียทรัพยากรหรือจำกัดความสามารถในการขยายตัว
สิ่งที่ต้องพิจารณา:
- ปริมาณงานในปัจจุบัน: ประเมินประเภทและปริมาณข้อมูลที่ธุรกิจของคุณจัดการ
- ความต้องการในอนาคต: พิจารณาว่าความต้องการด้านข้อมูลและการประมวลผลของคุณจะเติบโตอย่างไรในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
- ข้อจำกัดงบประมาณ: กำหนดงบประมาณคลาวด์เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเกินไป
เน้นการใช้โซลูชัน Hybrid และ multi-cloud
เมื่อผู้ให้บริการคลาวด์มีการแข่งขันกันเพิ่มขึ้น การเลือกใช้กลยุทธ์ Hybrid หรือ multi-cloud จะเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกผูกขาดจากผู้ให้บริการเดียว ในปี 2025 ธุรกิจมากขึ้นเริ่มใช้คลาวด์สาธารณะและส่วนตัวร่วมกัน โดยมีการปรับสมดุลระหว่างต้นทุนและประสิทธิภาพ
ข้อดีของ Hybrid และ multi-cloud:
- ความยืดหยุ่น: คุณสามารถเลือกผู้ให้บริการคลาวด์ที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละความต้องการเฉพาะ (เช่น เลือกผู้ให้บริการหนึ่งสำหรับการจัดเก็บข้อมูลและอีกผู้ให้บริการหนึ่งสำหรับความสามารถด้าน AI/ML)
- หลีกเลี่ยงการผูกขาด: ด้วยกลยุทธ์ multi-cloud ธุรกิจของคุณจะไม่ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ลดความเสี่ยง
- ประสิทธิภาพที่ปรับแต่งได้: การเลือกใช้หลายผู้ให้บริการตามจุดแข็งของแต่ละรายสามารถทำให้ธุรกิจมั่นใจในบริการที่ดีกว่าและการส่งมอบที่เร็วขึ้น
ลงทุนในโซลูชันด้านความปลอดภัยของคลาวด์
ความปลอดภัยของคลาวด์จะยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับธุรกิจในปี 2025 เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น การลงทุนในความปลอดภัยของคลาวด์จะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน การทำให้เป็นไปตามข้อกำหนด และการรักษาความต่อเนื่องของธุรกิจ
เคล็ดลับด้านความปลอดภัยของคลาวด์:
- เลือกผู้ให้บริการที่มีการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งและใบรับรองความสอดคล้อง (เช่น GDPR, HIPAA)
- มองหาบริการที่มีการตรวจสอบตลอดเวลาและการตรวจจับภัยคุกคามอัตโนมัติ
- ใช้การพิสูจน์ตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) และเครื่องมือการจัดการตัวตนอื่นๆ
เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนด้วยเครื่องมือการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนคลาวด์
ต้นทุนของคลาวด์อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหากไม่จัดการให้ดี ในปี 2025 เครื่องมือการจัดการต้นทุนคลาวด์จะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถควบคุมการใช้จ่ายและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน
กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน:
- ใช้เครื่องคำนวณต้นทุนคลาวด์เพื่อคาดการณ์ต้นทุนก่อนที่จะผูกมัดกับบริการ
- ติดตามและจัดการการใช้ทรัพยากรคลาวด์เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการจัดสรรทรัพยากรเกินความจำเป็นหรือน้อยเกินไป
- เลือกใช้บริการแบบจองล่วงหน้าหรือบริการที่มีราคาต่ำสำหรับปริมาณงานที่คาดการณ์ไว้เพื่อประหยัดต้นทุน
นำการอัตโนมัติและ AI มาใช้ในการจัดการคลาวด์
เมื่อสภาพแวดล้อมคลาวด์มีความซับซ้อนมากขึ้น การใช้เครื่องมืออัตโนมัติและ AI ในการจัดการโครงสร้างพื้นฐานจะกลายเป็นสิ่งสำคัญที่มากขึ้น เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากร ติดตามประสิทธิภาพ และรับรองความปลอดภัยด้วยการแทรกแซงจากมนุษย์น้อยที่สุด
ข้อดีของการอัตโนมัติและ AI:
- ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: การทำงานอัตโนมัติเช่น การจัดสรรทรัพยากร การปรับขนาด และการจัดการแพตช์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถปลดปล่อยทรัพยากรไปเพื่อสร้างนวัตกรรม
- ความสามารถในการทำนาย: เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถทำนายปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและให้คำแนะนำเชิงรุก ช่วยลดการหยุดทำงานและการขัดข้องของบริการ
เลือกผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีความสามารถด้าน AI/ML และการวิเคราะห์ข้อมูลที่แข็งแกร่ง
ในปี 2025 การใช้ AI และการเรียนรู้ของเครื่อง (ML) จะยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญในการแยกแยะข้อเสนอของคลาวด์ ธุรกิจที่ต้องการนำนวัตกรรมและข้อมูลไปใช้ควรเลือกผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีความสามารถด้าน AI/ML ที่ล้ำหน้าและเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลที่แข็งแกร่ง
ทำไมสิ่งนี้ถึงสำคัญ:
- ข้อมูล เป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในธุรกิจปัจจุบัน ผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีการวิเคราะห์ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถช่วยธุรกิจปลดล็อกข้อมูลจากชุดข้อมูลขนาดใหญ่
- โมเดลการเรียนรู้ของเครื่องที่สามารถปรับขยายได้ ที่ผู้ให้บริการคลาวด์มีให้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถนำโซลูชัน AI ที่ซับซ้อนมาใช้ได้โดยไม่ต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานภายใน
สำรวจเครื่องมือการทำงานร่วมกันและการสื่อสารบนคลาวด์
เมื่อการทำงานทางไกลและทีมงานที่กระจายตัวยังคงเพิ่มขึ้น เครื่องมือการทำงานร่วมกันและการสื่อสารบนคลาวด์กลายเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ทางธุรกิจ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างราบรื่นและทำให้ทีมสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจากทุกที่
ฟีเจอร์ที่ควรมองหา:
- การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์บนเอกสาร สเปรดชีต และการนำเสนอ
- การผนวกรวมกับเครื่องมือการจัดการโครงการเพื่อให้การทำงานราบรื่น
- ช่องทางการสื่อสารที่ปลอดภัยและอยู่บนคลาวด์สำหรับทีมงานทางไกล
ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการเลือกคลาวด์ของคุณ
ด้วยการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนที่เพิ่มขึ้น ผู้ให้บริการคลาวด์หลายรายกำลังให้ความสำคัญกับศูนย์ข้อมูลสีเขียวและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงาน การเลือกผู้ให้บริการคลาวด์ที่ยั่งยืนจะไม่เพียงแต่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัท แต่ยังอาจส่งผลให้เกิดการประหยัดต้นทุน
สิ่งที่ควรพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม:
- มองหาผู้ให้บริการที่มีศูนย์ข้อมูลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานทดแทน
- พิจารณาโซลูชันคลาวด์ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้พลังงาน
แนะนำบริการ Cloud ที่ควรเลือกซื้อในปี 2025
เมื่อพิจารณาเลือกซื้อบริการคลาวด์ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกตามความต้องการของธุรกิจ งบประมาณ และแผนการเติบโตในอนาคต นี่คือผู้ให้บริการคลาวด์ที่นิยมและน่าเชื่อถือในปี 2025 ที่ควรพิจารณา:
1. Microsoft Azure
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Microsoft และโซลูชันคลาวด์แบบผสม
- ภาพรวม: Azure ให้บริการคลาวด์ที่หลากหลายและเชื่อมโยงได้ดีเยี่ยมกับซอฟต์แวร์ของ Microsoft เหมาะสำหรับการใช้งานในโซลูชันคลาวด์แบบผสมและการใช้งานแอปพลิเคชันขององค์กร
- จุดเด่น:
- การเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อกับผลิตภัณฑ์ของ Microsoft เช่น Office 365 และ Windows Server
- การรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและบริการที่สอดคล้องตามมาตรฐาน
- เหมาะสำหรับการใช้งานในโซลูชันคลาวด์แบบผสม
2. Amazon Web Services (AWS)
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจขนาดใหญ่ ความยืดหยุ่น และนวัตกรรม
- ภาพรวม: AWS เป็นผู้นำในตลาดคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยให้บริการที่หลากหลาย เช่น กำลังประมวลผลข้อมูล การจัดเก็บข้อมูล การเรียนรู้ของเครื่อง และเครื่องมือด้านความปลอดภัย AWS มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการของธุรกิจทุกรูปแบบ
- จุดเด่น:
- โครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมทั่วโลก
- บริการที่ทันสมัยในด้าน AI, การเรียนรู้ของเครื่อง และการวิเคราะห์ข้อมูล
- การบูรณาการกับเครื่องมือจากบุคคลที่สามได้ดี
3. Google Cloud Platform (GCP)
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่เน้นด้านข้อมูล การวิเคราะห์ และ AI/ML
- ภาพรวม: GCP เป็นที่รู้จักในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ การเรียนรู้ของเครื่อง และปัญญาประดิษฐ์ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อการตัดสินใจและการทำนาย
- จุดเด่น:
- เครื่องมือ AI และ Machine Learning ที่ทันสมัย เช่น Google AI และ TensorFlow
- ความสามารถในการปรับขนาดที่ยืดหยุ่น
- เน้นการใช้เทคโนโลยี Open Source
4. IBM Cloud
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่ต้องการ AI, Blockchain และโซลูชันคลาวด์แบบผสม
- ภาพรวม: IBM Cloud มีการผสมผสานระหว่างการให้บริการคลาวด์และการใช้งานภายในองค์กร โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนา AI และ Blockchain ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันเฉพาะทางในอุตสาหกรรมต่างๆ
- จุดเด่น:
- ให้บริการทั้งคลาวด์สาธารณะและส่วนตัว
- ความสามารถด้าน AI และการวิเคราะห์ข้อมูลที่แข็งแกร่งผ่าน IBM Watson
- โซลูชัน Blockchain สำหรับการทำธุรกรรมที่ปลอดภัย
5. Oracle Cloud
เหมาะสำหรับ: ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการฐานข้อมูลและโซลูชัน ERP
- ภาพรวม: Oracle Cloud มีความเชี่ยวชาญในบริการด้านฐานข้อมูลและให้บริการโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่หรือระบบการวางแผนทรัพยากรขององค์กร (ERP)
- จุดเด่น:
- เครื่องมือจัดการฐานข้อมูลชั้นนำของอุตสาหกรรม
- การบูรณาการกับผลิตภัณฑ์ Oracle ที่มีอยู่
- เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่เน้นข้อมูลและการจัดการทรัพยากรขององค์กร
การเลือกบริการ Cloud Storage ที่เหมาะสมในปี 2025
บริการ | พื้นที่ฟรี | แพ็กเกจชำระเงิน | จุดเด่น | เหมาะสำหรับ |
Google One (Google Drive) | 15 GB | 100 GB ($1.99/เดือน), 200 GB ($2.99/เดือน), 2 TB ($9.99/เดือน) | รวมกับ Google Workspace, สำรองข้อมูลมือถือ, แชร์ไฟล์สะดวก | ผู้ใช้ทั่วไป, ธุรกิจที่ใช้ Google Services |
Microsoft OneDrive | 5 GB | 100 GB ($1.99/เดือน), 1 TB ($6.99/เดือน), 6 TB ($9.99/เดือน) | รวมกับ Office 365, เข้าถึงไฟล์แบบออฟไลน์, ซิงค์อัตโนมัติ | มืออาชีพ, ผู้ใช้ Office 365 |
Apple iCloud | 5 GB | 50 GB ($0.99/เดือน), 200 GB ($2.99/เดือน), 2 TB ($9.99/เดือน) | เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple, สำรองข้อมูลอัตโนมัติ | ผู้ใช้ Apple |
Dropbox | 2 GB | 2 TB ($9.99/เดือน), 2 TB Family Plan ($16.99/เดือน) | ซิงค์ไฟล์รวดเร็ว, กู้คืนไฟล์ที่ลบ, รองรับแอปภายนอก | ทีมงาน, มืออาชีพที่ต้องการเข้าถึงไฟล์เร็ว |
Box | 10 GB | 100 GB ($10/เดือน), Business Plan ($5/ผู้ใช้/เดือน) | ระบบรักษาความปลอดภัยสูง, การจัดการไฟล์ธุรกิจ | องค์กร, ผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูง |
Amazon Drive | 5 GB | 100 GB ($1.99/เดือน), 1 TB ($6.99/เดือน), 2 TB ($11.99/เดือน) | เชื่อมต่อกับ Amazon Photos, สำรองข้อมูลอัตโนมัติ | ผู้ใช้ที่อยู่ในระบบ Amazon |
pCloud | 10 GB | 500 GB ($47.88/ปี), 2 TB ($95.88/ปี), แพ็กเกจตลอดชีพ | เข้ารหัสไฟล์ฝั่งลูกค้า, สตรีมมีเดียได้ | ผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว |
Sync.com | 5 GB | 2 TB ($8/เดือน), 6 TB ($20/เดือน) | การเข้ารหัสแบบ end-to-end, แชร์ไฟล์ปลอดภัย | ผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยสูง, ทีมงาน |
Mega | 20 GB | 400 GB (€4.99/เดือน), 2 TB (€9.99/เดือน), 8 TB (€19.99/เดือน) | ระบบเข้ารหัสข้อมูล, พื้นที่ฟรีขนาดใหญ่, ถ่ายโอนไฟล์รวดเร็ว | ผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว |
iDrive | 5 GB | 5 TB ($79.50/ปี), 10 TB ($99.50/ปี) | สำรองข้อมูลอัตโนมัติ, กู้คืนข้อมูลง่าย | ผู้ใช้ที่เน้นการสำรองข้อมูล, ธุรกิจ |
การเลือกบริการ Cloud Storage ที่เหมาะสมในปี 2025 เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดเก็บและเข้าถึงข้อมูลของคุณอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ในบทความนี้ เราจะเปรียบเทียบ 10 บริการ Cloud Storage ชั้นนำ พร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับแพ็กเกจฟรีและแบบชำระเงิน เพื่อช่วยคุณตัดสินใจเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการของคุณ
- Google One (Google Drive)
- พื้นที่ฟรี: 15 GB
- แพ็กเกจชำระเงิน:
- 100 GB: $1.99/เดือน
- 200 GB: $2.99/เดือน
- 2 TB: $9.99/เดือน
- คุณสมบัติเด่น: รวมบริการกับ Google Workspace, การแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์, การสำรองข้อมูลอุปกรณ์เคลื่อนที่
- Microsoft OneDrive
- พื้นที่ฟรี: 5 GB
- แพ็กเกจชำระเงิน:
- 100 GB: $1.99/เดือน
- Microsoft 365 Personal (1 TB): $6.99/เดือน (รวม Office Apps)
- Microsoft 365 Family (6 TB): $9.99/เดือน (รวม Office Apps สำหรับ 6 คน)
- คุณสมบัติเด่น: การรวมกับ Microsoft Office, การซิงค์ไฟล์อัตโนมัติ, การเข้าถึงไฟล์ออฟไลน์
- Apple iCloud
- พื้นที่ฟรี: 5 GB
- แพ็กเกจชำระเงิน:
- 50 GB: $0.99/เดือน
- 200 GB: $2.99/เดือน
- 2 TB: $9.99/เดือน
- คุณสมบัติเด่น: การรวมกับอุปกรณ์ Apple, การสำรองข้อมูลอัตโนมัติ, การแชร์ไฟล์กับครอบครัว
- Dropbox
- พื้นที่ฟรี: 2 GB
- แพ็กเกจชำระเงิน:
- Plus (2 TB): $9.99/เดือน
- Family (2 TB แชร์ได้ 6 คน): $16.99/เดือน
- คุณสมบัติเด่น: การซิงค์ไฟล์รวดเร็ว, การกู้คืนไฟล์ที่ลบ, การรวมกับแอปพลิเคชันอื่นๆ
- Box
- พื้นที่ฟรี: 10 GB
- แพ็กเกจชำระเงิน:
- Personal Pro (100 GB): $10/เดือน
- Business Starter (100 GB): $5/ผู้ใช้/เดือน
- คุณสมบัติเด่น: การรักษาความปลอดภัยขั้นสูง, การจัดการไฟล์สำหรับธุรกิจ, การรวมกับแอปพลิเคชันธุรกิจ
- Amazon Drive
- พื้นที่ฟรี: 5 GB
- แพ็กเกจชำระเงิน:
- 100 GB: $1.99/เดือน
- 1 TB: $6.99/เดือน
- 2 TB: $11.99/เดือน
- คุณสมบัติเด่น: การรวมกับ Amazon Photos, การสำรองข้อมูลอัตโนมัติ, การแชร์ไฟล์ง่ายดาย
- pCloud
- พื้นที่ฟรี: 10 GB
- แพ็กเกจชำระเงิน:
- Premium (500 GB): $47.88/ปี
- Premium Plus (2 TB): $95.88/ปี
- แผนชำระครั้งเดียวสำหรับการใช้งานตลอดชีพ
- คุณสมบัติเด่น: การเข้ารหัสไฟล์ฝั่งลูกค้า, การเล่นสื่อออนไลน์, การสำรองข้อมูลจากบริการอื่นๆ
- Sync.com
- พื้นที่ฟรี: 5 GB
- แพ็กเกจชำระเงิน:
- Solo Basic (2 TB): $8/เดือน
- Solo Professional (6 TB): $20/เดือน
- คุณสมบัติเด่น: การเข้ารหัสแบบ end-to-end, การซิงค์ไฟล์อัตโนมัติ, การแชร์ไฟล์อย่างปลอดภัย
- Mega
- พื้นที่ฟรี: 20 GB
- แพ็กเกจชำระเงิน:
- Pro Lite (400 GB): €4.99/เดือน
- Pro I (2 TB): €9.99/เดือน
- Pro II (8 TB): €19.99/เดือน
- คุณสมบัติเด่น: การเข้ารหัสไฟล์แบบครบวงจร, การแชร์ไฟล์ด้วยลิงก์ที่ปลอดภัย, การซิงค์ไฟล์อัตโนมัติ
- iDrive
- พื้นที่ฟรี: 5 GB
- แพ็กเกจชำระเงิน:
- 5 TB: $79.50/ปี
- 10 TB: $99.50/ปี
- คุณสมบัติเด่น: การสำรองข้อมูลอัตโนมัติ, การกู้คืนข้อมูลที่ง่ายดาย,
บทสรุป: กลยุทธ์การ ซื้อ Cloud ที่ดีที่สุด
ภูมิทัศน์ของคลาวด์กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และการนำ กลยุทธ์การซื้อ Cloud ที่ดีที่สุด มาใช้ในปี 2025 จะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการมุ่งเน้นที่ความปลอดภัย การเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน ความยืดหยุ่น และความสามารถที่ล้ำหน้าของ AI/ML ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากการลงทุนในคลาวด์ให้สูงสุด ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสม ธุรกิจของคุณจะสามารถเติบโตได้ในโลกดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว.
สนใจผลิตภัณฑ์และบริการของ Microsoft หรือไม่ ส่งข้อความถึงเราที่นี่
สำรวจเครื่องมือดิจิทัลของเรา
หากคุณสนใจในการนำระบบจัดการความรู้มาใช้ในองค์กรของคุณ ติดต่อ SeedKM เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้ภายในองค์กร หรือสำรวจผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Jarviz สำหรับการบันทึกเวลาทำงานออนไลน์, OPTIMISTIC สำหรับการจัดการบุคลากร HRM-Payroll, Veracity สำหรับการเซ็นเอกสารดิจิทัล, และ CloudAccount สำหรับการบัญชีออนไลน์
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้และเครื่องมือการจัดการอื่นๆ ได้ที่ Fusionsol Blog, IP Phone Blog, Chat Framework Blog, และ OpenAI Blog.