GPT 5 Codex เปิดให้ใช้งานทั่วไปอย่างเป็นทางการแล้ว

OpenAI ได้ประกาศเปิดตัว GPT 5 Codex อย่างเป็นทางการ มอบผู้ช่วยเขียนโค้ดอัจฉริยะที่ล้ำสมัยและยืดหยุ่นยิ่งขึ้นสำหรับนักพัฒนาและทีมวิศวกรรมทั่วโลก พร้อมกันนี้ OpenAI ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่หลัก 3 อย่าง ได้แก่ การเชื่อมต่อกับ Slack, Codex SDK และเครื่องมือผู้ดูแลระบบรุ่นใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มพลังให้ Codex กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการพัฒนาในระดับองค์กรและการทำงานร่วมกัน
ไฮไลต์สำคัญ
ตั้งแต่ช่วงพรีวิวการวิจัยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Codex ได้พัฒนาจากต้นแบบการเขียนโค้ดไปสู่เอเจนต์ประมวลผลบนคลาวด์ที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่นระหว่างโปรแกรมแก้ไขโค้ด (editor), terminal และสภาพแวดล้อมบนคลาวด์ ทั้งหมดเชื่อมโยงผ่านบัญชี ChatGPT ของคุณ
ภายในเวลาเพียงสามสัปดาห์หลังเปิดตัว GPT 5 Codex ได้ประมวลผลเกินกว่า 40 ล้านล้านโทเคน ทำให้เป็นหนึ่งในโมเดลที่เติบโตเร็วที่สุดของ OpenAI
บริษัทชั้นนำอย่าง Cisco, Duolingo, Vanta และ Rakuten ต่างนำ Codex มาใช้เพื่อเร่งกระบวนการพัฒนา ขณะที่ภายใน OpenAI เอง วิศวกรแทบทุกคนใช้ Codex เป็นประจำทุกวัน ทำให้จำนวน pull requests ที่ถูกรวมเพิ่มขึ้นถึง 70% พร้อมตรวจพบข้อผิดพลาดสำคัญก่อนการดีพลอยได้มากขึ้น
1. Codex ใน Slack
การเชื่อมต่อ Codex เข้ากับ Slack ช่วยให้ทีมสามารถมอบหมายงานหรือสอบถาม Codex ได้โดยตรงจากช่องหรือเธรดของ Slack เหมือนกำลังคุยกับเพื่อนร่วมทีมจริง ๆ
เพียงแท็ก @Codex ในการสนทนา ระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติ:
- รวบรวมบริบทจากข้อความของคุณ
- เลือกสภาพแวดล้อมการเขียนโค้ดที่เหมาะสม
- ตอบกลับด้วยลิงก์ไปยังงานที่เสร็จสมบูรณ์ใน Codex Cloud
จากนั้นคุณสามารถรวมโค้ด ปรับปรุงต่อ หรือดึงงานนั้นลงมาใช้งานในเครื่องได้โดยตรง การเชื่อมต่อนี้ทำให้การสนทนาในทีมและการเขียนโค้ดแบบเรียลไทม์รวมกันได้อย่างลงตัว
2. Codex SDK
Codex SDK ใหม่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถฝังความสามารถของ GPT 5 Codex ลงในเวิร์กโฟลว์ แอปพลิเคชัน หรือเครื่องมือพัฒนาได้โดยตรง
คุณสมบัติของ SDK ได้แก่:
- ผลลัพธ์แบบมีโครงสร้างเพื่อช่วยให้ประมวลผลง่ายขึ้น
- ระบบจัดการบริบทภายในที่ช่วยให้สนทนาต่อเนื่องได้
- ประสิทธิภาพสูงสุดที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับ GPT-5-Codex
ตัวอย่าง TypeScript:
import { Codex } from “@openai/codex-sdk”;
const agent = new Codex({});
const thread = await agent.startThread();
const result = await thread.run(“Explore this repo”);
console.log(result);
// Resume thread
const result2 = await thread.run(“Propose changes”);
console.log(result2);
SDK ยังสามารถเชื่อมต่อกับ GitHub Actions เพื่อให้ทีมทำงานแบบอัตโนมัติในกระบวนการ CI/CD ได้อย่างราบรื่น สำหรับสภาพแวดล้อมแบบ shell ก็สามารถใช้ Codex CLI ผ่านคำสั่ง codex exec เพื่อรันคำสั่งโดยตรง
3. เครื่องมือผู้ดูแลระบบรุ่นใหม่
ผู้ดูแลระบบใน ChatGPT Workspace สามารถควบคุมและมองเห็นการทำงานของ Codex ได้อย่างเต็มรูปแบบ
ความสามารถใหม่ประกอบด้วย:
- การจัดการสภาพแวดล้อม: แก้ไขหรือลบ Codex Cloud environment ได้
- การตั้งค่าที่ปลอดภัยกว่า: กำหนดค่าเริ่มต้นสำหรับการใช้งานภายในองค์กร
- ระบบตรวจสอบและวิเคราะห์: แดชบอร์ดแบบภาพที่ติดตามกิจกรรม CLI, IDE และ Web รวมถึงคุณภาพการตรวจสอบโค้ดและสถิติการใช้งาน
เครื่องมือนี้ช่วยให้องค์กรมั่นใจได้ในด้านความปลอดภัย การกำกับดูแล และความโปร่งใสในการใช้งานในระดับเอนเทอร์ไพรส์
Codex ในการทำงานจริง
บริษัท | กรณีใช้งาน | ผลลัพธ์ที่ได้ |
Cisco | ระบบตรวจสอบโค้ดอัตโนมัติ | เวลาตรวจสอบลดลง 50% และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน |
Instacart | การทำความสะอาดโค้ดผ่าน Codex SDK | ลดหนี้ทางเทคนิคและปรับปรุงประสิทธิภาพของโค้ดเบส |
Duolingo | เครื่องมือช่วยเรียนรู้ด้วย AI | เพิ่มความเร็วในการพัฒนาและทดสอบ |
OpenAI | การวิเคราะห์โค้ดอย่างต่อเนื่อง | Pull requests ถูกรวมมากขึ้น 70% ต่อสัปดาห์ |
ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Codex สามารถเพิ่มความร่วมมือในทีม ลดงานซ้ำซ้อน และปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบโค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การให้บริการและราคา
- พร้อมให้บริการแล้ววันนี้สำหรับนักพัฒนาในแผน ChatGPT Plus, Pro, Business, Edu และ Enterprise
- เครื่องมือผู้ดูแลระบบมีให้ในแผน Business, Edu และ Enterprise
- งานที่รันบน Codex Cloud จะเริ่มนับการใช้งานตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมเป็นต้นไป
นักพัฒนาสามารถดูเอกสารและคำแนะนำการตั้งค่าได้จากศูนย์เอกสารทางการของ OpenAI
สรุป
การเปิดให้ใช้งานทั่วไปของ GPT 5 Codex ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยพลัง AI ด้วยการเชื่อมต่อ Slack SDK ที่ทรงพลัง และเครื่องมือผู้ดูแลระบบขั้นสูง ทำให้ทีมต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกัน เขียนโค้ด และดีพลอยได้เร็วกว่าเดิม
ด้วยการเชื่อมโยงทุกขั้นตอนของวงจรการพัฒนา ตั้งแต่การพูดคุยจนถึงการนำขึ้นระบบจริง GPT 5 Codex กำลังนิยามแนวคิดใหม่ของการ “เขียนโค้ดร่วมกับ AI” อย่างแท้จริง.
สนใจผลิตภัณฑ์และบริการของ Microsoft หรือไม่ ส่งข้อความถึงเราที่นี่
สำรวจเครื่องมือดิจิทัลของเรา
หากคุณสนใจในการนำระบบจัดการความรู้มาใช้ในองค์กรของคุณ ติดต่อ SeedKM เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้ภายในองค์กร หรือสำรวจผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น Jarviz สำหรับการบันทึกเวลาทำงานออนไลน์, OPTIMISTIC สำหรับการจัดการบุคลากร HRM-Payroll, Veracity สำหรับการเซ็นเอกสารดิจิทัล, และ CloudAccount สำหรับการบัญชีออนไลน์
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบจัดการความรู้และเครื่องมือการจัดการอื่นๆ ได้ที่ Fusionsol Blog, IP Phone Blog, Chat Framework Blog, และ OpenAI Blog.
New Gemini Tools For Educators: Empowering Teaching with AI
ถ้าอยากติดตามข่าวเทคโนโลยีและข่าว AI ที่กำลังเป็นกระแสทุกวัน ลองเข้าไปดูที่ เว็บไซต์นี้ มีอัปเดตใหม่ๆ ให้ตามทุกวันเลย!
Fusionsol Blog in Vietnamese
Related Articles
Frequently Asked Questions (FAQ)
Microsoft Copilot คืออะไร?
Microsoft Copilot คือฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ใช้ AI เพื่อช่วยในการทำงานภายในแอปของ Microsoft 365 เช่น Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ Teams โดยทำหน้าที่ช่วยสรุป เขียน วิเคราะห์ และจัดการข้อมูล
Copilot ใช้งานได้กับแอปไหนบ้าง?
ปัจจุบัน Copilot รองรับ Microsoft Word, Excel, PowerPoint, Outlook, Teams, OneNote, และอื่น ๆ ในตระกูล Microsoft 365
ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือไม่จึงจะใช้งาน Copilot ได้?
จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เนื่องจาก Copilot ทำงานร่วมกับโมเดล AI บนคลาวด์เพื่อให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและอัปเดตข้อมูลล่าสุด
สามารถใช้ Copilot ช่วยเขียนเอกสารหรืออีเมลได้อย่างไร?
ผู้ใช้สามารถพิมพ์คำสั่ง เช่น “สรุปรายงานในย่อหน้าเดียว” หรือ “เขียนอีเมลตอบลูกค้าอย่างเป็นทางการ” และ Copilot จะสร้างข้อความให้ตามคำสั่ง
Copilot ปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่?
ใช่ Copilot ได้รับการออกแบบโดยยึดหลักความปลอดภัยและการปกป้องความเป็นส่วนตัว โดยข้อมูลของผู้ใช้จะไม่ถูกใช้ในการฝึกโมเดล AI และมีระบบการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลอย่างเข้มงวด