Microsoft Defender for Identity

Microsoft Defender for Identity

Microsoft Defender for Identity: เสริมความปลอดภัยในการเข้าถึงและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน องค์กรต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามด้านข้อมูลประจำตัว ความเสี่ยงจากบุคคลภายใน และความพยายามเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต การปกป้องข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้และการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาความปลอดภัยขององค์กร Microsoft Defender for Identity เป็นโซลูชันความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับ ตรวจสอบ และตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลประจำตัวในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดและภายในองค์กร  ด้วยการใช้การวิเคราะห์พฤติกรรม ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ โซลูชันนี้ช่วยให้องค์กรสามารถเสริมสร้างการควบคุมการเข้าถึงและปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะอธิบายว่าเครื่องมือนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลประจำตัวได้อย่างไร พร้อมทั้งประโยชน์ที่ได้รับและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน วิธีการทำงานของ Microsoft Defender for Identity  โซลูชันความปลอดภัยนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยคุกคามด้านข้อมูลประจำตัว โดยอาศัยการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้และการตรวจจับความผิดปกติ ระบบสามารถทำงานร่วมกับ Active Directory (AD) และ Azure AD เพื่อให้สามารถตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัยได้แบบเรียลไทม์ เช่น การเพิ่มสิทธิ์โดยมิชอบ การเคลื่อนที่ภายในเครือข่าย และการขโมยข้อมูลประจำตัว คุณสมบัติเด่นของโซลูชันนี้ การวิเคราะห์พฤติกรรม & การตรวจจับด้วย AI – ใช้ Machine Learning เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้และตรวจจับความผิดปกติ …

cloud based antivirus

Cloud Based Antivirus vs Traditional Antivirus

Cloud Based Antivirus vs Traditional Antivirus: ข้อดีและข้อเสีย ในปัจจุบัน ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่แรนซัมแวร์ไปจนถึงการโจมตีแบบศูนย์วัน (Zero-Day Attacks) ดังนั้น การเลือกโซลูชันแอนติไวรัสที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญต่อการปกป้องอุปกรณ์และข้อมูลจากอันตรายที่เพิ่มขึ้น Cloud Based Antivirus เป็นทางเลือกที่ทันสมัยกว่าแอนติไวรัสแบบดั้งเดิม โดยใช้พลังของระบบคลาวด์เพื่อให้การตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ อัปเดตอัตโนมัติ และลดผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับแอนติไวรัสแบบดั้งเดิมแล้ว โซลูชันแบบใดดีกว่ากัน? บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความแตกต่าง ข้อดี และข้อเสียของทั้งสองตัวเลือก เพื่อให้คุณสามารถเลือกโซลูชันที่เหมาะกับความต้องการด้านความปลอดภัยของคุณได้ดีที่สุด  Cloud Based Antivirus ทำงานอย่างไร?  Cloud Antivirus ทำงานโดยการประมวลผลด้านความปลอดภัย เช่น การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการตรวจจับมัลแวร์บนเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ แทนที่จะทำงานบนอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรง ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องเก็บฐานข้อมูลไวรัสไว้ในเครื่อง แต่จะดึงข้อมูลล่าสุดจากระบบคลาวด์โดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถป้องกันภัยคุกคามใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องอัปเดตซอฟต์แวร์ด้วยตนเอง  คุณสมบัติหลักของ Cloud Antivirus  การตรวจจับภัยคุกคามด้วย AI – ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) เพื่อระบุภัยคุกคามใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ลดการใช้ทรัพยากรของระบบ –…

Data Warehouse vs Data Lake

Data Warehouse vs Data Lake: Key Differences

Data Warehouse vs Data Lake: ความแตกต่างหลัก ประโยชน์ และกรณีใช้งาน ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ธุรกิจจำเป็นต้องเลือกโซลูชันการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่เหมาะสมเพื่อจัดการข้อมูลจำนวนมาก ทั้งข้อมูลที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง Data Warehouse vs Data Lake เป็นสองแนวทางหลักที่มีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไปตามวิธีการจัดเก็บ ประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูล การทำความเข้าใจความแตกต่าง ประโยชน์ และกรณีการใช้งานของแต่ละแนวทางจะช่วยให้องค์กรสามารถปรับกลยุทธ์ข้อมูลให้เหมาะสมเพื่อการตัดสินใจและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  ทำความเข้าใจ Data Warehouse vs Data Lake  Data Warehouse คืออะไร?  Data Warehouse เป็นศูนย์กลางจัดเก็บข้อมูลที่ออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูลที่มีโครงสร้างและผ่านการประมวลผลจากแหล่งต่างๆ ระบบนี้ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับ Business Intelligence (BI) การวิเคราะห์ และการรายงาน ซึ่งรับประกันความสม่ำเสมอของข้อมูลและประสิทธิภาพสูง ก่อนที่ข้อมูลจะเข้าสู่ Data Warehouse ข้อมูลต้องผ่านกระบวนการ Extract, Transform, Load (ETL) เพื่อให้แน่ใจว่ามีเฉพาะข้อมูลที่สะอาดและมีโครงสร้างเท่านั้นที่ถูกจัดเก็บ  คุณลักษณะสำคัญของ Data Warehouse:  เก็บข้อมูลที่มีโครงสร้าง ผ่านการประมวลผล…

Microsoft Fabric คืออะไร

What is Microsoft Fabric?

Microsoft Fabric คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับธุรกิจ Microsoft Fabric คืออะไร? แพลตฟอร์มที่รวมโซลูชันด้านข้อมูลและการวิเคราะห์เข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้การจัดการข้อมูล การวิเคราะห์ และการใช้ AI เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างขึ้นบนระบบคลาวด์ของ Microsoft เพื่อผสานเครื่องมือต่างๆ สำหรับวิศวกรรมข้อมูล การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ระบบธุรกิจอัจฉริยะ และแมชชีนเลิร์นนิงให้อยู่ในแพลตฟอร์มเดียว  Microsoft Fabric ช่วยให้องค์กรสามารถรับ ส่ง เปลี่ยนแปลง จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่มีโครงสร้างหรือไม่มีโครงสร้าง โดยช่วยลดการแยกส่วนของข้อมูล ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจทางธุรกิจ  Microsoft Fabric คืออะไร?  Microsoft Fabric คือแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ที่รวมเครื่องมือต่างๆ ไว้ในระบบเดียว ช่วยให้องค์กรสามารถจัดเก็บ ประมวลผล วิเคราะห์ และใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับทั้งข้อมูลแบบโครงสร้าง (Structured) และไม่มีโครงสร้าง (Unstructured) พร้อมความสามารถในการผสานรวมกับ AI และระบบวิเคราะห์ขั้นสูง ด้วยสถาปัตยกรรมที่ทำงานบนคลาวด์ ธุรกิจสามารถลดความซับซ้อนของการจัดการข้อมูล เพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ และลดต้นทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  องค์ประกอบสำคัญของ Microsoft…

azure data lake

Azure Data Lake: Optimize Business Data Storage and Analytics

Azure Data Lake: เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลทางธุรกิจและการวิเคราะห์ ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล องค์กรต้องการโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้และมีประสิทธิภาพในการจัดเก็บ จัดการ และวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ Azure Data Lake เป็นแพลตฟอร์มการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถขยายขนาดได้อย่างสูง ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถประมวลผลข้อมูลที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้โซลูชันบนระบบคลาวด์นี้ ธุรกิจสามารถปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้  โครงสร้างสถาปัตยกรรมของ Azure Data Lake โซลูชันนี้ถูกออกแบบบนสถาปัตยกรรมการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่สามารถรองรับข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประกอบด้วย:  1. ระบบจัดเก็บข้อมูลที่สามารถขยายขนาดได้  โซลูชันที่สามารถขยายขนาดได้อย่างสูงและมีต้นทุนที่คุ้มค่าสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่  รองรับ hierarchical namespace ช่วยให้จัดระเบียบข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน  รองรับการใช้งานร่วมกับ Apache Hadoop และเฟรมเวิร์กวิเคราะห์ข้อมูลอื่น ๆ  2. ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง  บริการวิเคราะห์แบบ on-demand ที่สามารถประมวลผลชุดข้อมูลขนาดใหญ่  ใช้ U-SQL ซึ่งเป็นภาษาคิวรีที่ผสมผสานระหว่าง SQL และ C#  ไม่ต้องจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ลดความซับซ้อนของการดำเนินงาน  เมื่อรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกัน องค์กรสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการประมวลผลข้อมูลที่เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจได้  คุณสมบัติเด่นของ Azure Data…

Azure Data Warehouse Pricing

Azure Data Warehouse Pricing: A Complete Guide to Cost Optimization 

Azure Data Warehouse Pricing: คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน ธุรกิจต้องพึ่งพา Azure Data Warehouse Pricing เพื่อหาวิธีที่คุ้มค่าที่สุดในการจัดเก็บ ประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ Microsoft Azure มีโมเดลการกำหนดราคาที่ยืดหยุ่นและสามารถขยายขนาดได้ ทำให้องค์กรจ่ายเฉพาะสิ่งที่ใช้จริง ช่วยให้บริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพสูงสุดในการวิเคราะห์ข้อมูล  การทำความเข้าใจโครงสร้างราคาช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจได้อย่างแม่นยำเกี่ยวกับทรัพยากรประมวลผล ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูล และแผนการใช้งานที่เหมาะสม ในคู่มือนี้ เราจะอธิบายหลักการทำงานของราคา ปัจจัยที่มีผลกระทบ และกลยุทธ์ในการลดต้นทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด  โครงสร้างราคาของ Azure Data Warehouse  Azure มีโมเดลราคาที่ยืดหยุ่นสำหรับการใช้งาน Data Warehouse โดยพิจารณาตามองค์ประกอบหลักดังนี้:  1. ค่าใช้จ่ายด้านการประมวลผล  คิดค่าใช้จ่ายตาม Data Warehouse Units (DWUs) ซึ่งเป็นหน่วยวัดพลังการประมวลผล หน่วยความจำ และการรับส่งข้อมูล  ธุรกิจสามารถปรับขนาด DWUs ขึ้นหรือลงตามปริมาณงานที่ต้องการ  โมเดลราคามีทั้งแบบ Pay-as-You-Go (จ่ายตามการใช้งานจริง) และ Reserved Instance (มีส่วนลดเมื่อทำสัญญาระยะยาว) …